สาระควรรู้ทั่วไป

ตั้งแต่ต้นปีนี้ พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2562 (พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง) ประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้เริ่มบังคับใช้เป็นกฎหมายเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2562 และกำหนดว่า จะเริ่มจัดเก็บภาษีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป โดยจะมาแทนที่การจัดเก็บภาษีบำรุงท้องที่และภาษีโรงเรือนและที่ดิน ซึ่งจะถูกยกเลิกไป

ประกาศอสังหาริมทรัพย์ใหม่ บ้าน บ้าน รายการล่าสุด บ้านเดี่ยว บ้านเดี่ยว รายการล่าสุด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์เฮ้าส์ รายการล่าสุด ทาวน์โฮม ทาวน์โฮม รายการล่าสุด คอนโด คอนโด รายการล่าสุด อาคารพาณิชย์ อาคารพาณิชย์ รายการล่าสุด อพาร์ทเม้นท์ อพาร์ทเม้นท์ รายการล่าสุด สำนักงาน สำนักงาน รายการล่าสุด โฮมออฟฟิศ โฮมออฟฟิศ รายการล่าสุด ธุรกิจ ธุรกิจ รายการล่าสุด โรงงาน โรงงาน รายการล่าสุด คลังสินค้า คลังสินค้า รายการล่าสุด โกดัง โกดัง รายการล่าสุด ที่ดิน ที่ดิน รายการล่าสุด ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา รายการล่าสุด ผู้รับเหมา ลงประกาศฟรี ผู้รับเหมา ข่าวประชาสัมพันธ์ รายการล่าสุด ข่าวประชาสัมพันธ์ พรีวิวโครงการใหม่ รายการล่าสุด พรีวิวโครงการใหม่ ตกแต่งที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ตกแต่งที่อยู่อาศัย สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สาระควรรู้ ที่อยู่อาศัย ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด ฮวงจุ้ย ที่อยู่อาศัย สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย รายการล่าสุด สินเชื่อ ที่อยู่อาศัย SME รายการล่าสุด SME สถานที่ท่องเที่ยว รายการล่าสุด สถานที่ท่องเที่ยว

เจาะลึกอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2563 และวิธีการคำนวณภาษี

เจาะลึกอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2563 และวิธีการคำนวณภาษี

อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ของที่ดินแต่ละประเภท และวิธีการคำนวณภาษี

          ตั้งแต่ต้นปีนี้ พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2562 (พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง) ประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้เริ่มบังคับใช้เป็นกฎหมายเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2562 และกำหนดว่า จะเริ่มจัดเก็บภาษีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป โดยจะมาแทนที่การจัดเก็บภาษีบำรุงท้องที่และภาษีโรงเรือนและที่ดิน ซึ่งจะถูกยกเลิกไป

          วันนี้เราจะมาเจาลึกถึงอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยจะเก็บภาษีตามมูลค่าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ถือครอง และอัตราภาษีขึ้นอยู่กับการใช้ประโยชน์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตามประเภทต่างๆ 

ที่ดินแต่ละประเภท เสียภาษีเท่าไหร่ ?

          อัตราการเก็บภาษีที่ดินใหม่ จะแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ตามลักษณะการใช้ประโยชน์ ได้แก่ เกษตรกรรม, ที่อยู่อาศัย, อื่น ๆ (พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม) และที่ดินรกร้างว่างเปล่า โดยคิดอัตราภาษีเป็นรูปแบบขั้นบันไดเพิ่มขึ้นตามมูลค่าราคาประเมิน ดังนี้ 

 

devil 🌾  เกษตรกรรม   🌾 devil

 เพดานภาษีสูงสุด 0.15% 

  สำหรับการใช้ที่ดินเพื่อทำนา ทำไร่ ทำสวน เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงสัตว์น้ำ และกิจการอื่นตามที่ประกาศกำหนด

          ทั้งนี้ คำว่าที่ดินเพื่อการเกษตรจะต้องปลูกต้นไม้ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดด้วย เช่น หากปลูกกล้วยต้องไม่ต่ำกว่า 200 ต้น/ไร่ ถ้าปลูกน้อยกว่าที่กำหนดไว้จะคิดภาษีที่ดินที่เหลือ อย่างไรก็ตาม หลักเกณฑ์และรายละเอียดต่าง ๆ จะได้รับทราบในเร็ว ๆ นี้

 อัตราภาษีที่กำหนด

  • มูลค่า 0-75 ล้านบาท อัตราภาษี 0.01% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 100 บาท)
  • มูลค่าเกิน 75-100 ล้านบาท อัตราภาษี 0.03% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 300 บาท)
  • มูลค่าเกิน 100-500 ล้านบาท อัตราภาษี 0.05% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 500 บาท)
  • มูลค่า เกิน 500-1,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.07% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 700 บาท)
  • มูลค่า 1,000 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.10% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 1,000 บาท)

* กรณีเป็นบุคคลธรรมดาที่ทำการเกษตร ไม่ต้องเสียภาษีใน 3 ปีแรกที่กฎหมายบังคับใช้
* ปีที่ 4 เป็นต้นไป ได้รับยกเว้น 50 ล้านบาทแรก/เขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ดังนั้นเมื่อหักค่ายกเว้นแล้วจะได้อัตราภาษีที่ดินเพื่อการเกษตรสำหรับบุคคลธรรมดาดังนี้

 อัตราภาษีปี 2563-2565

  • บุคคลธรรมดาที่ทำการเกษตร ไม่ต้องเสียภาษีที่ดิน

 อัตราภาษีปี 2566 เป็นต้นไป

  • บุคคลธรรมดาที่ทำการเกษตร มีที่ดินมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี
  • กรณีที่ดินมีมูลค่าเกิน 50 ล้านบาท เก็บภาษีส่วนเกิน สูงสุดไม่เกิน 0.15%

     เท่ากับว่า หากเรา (บุคคลธรรมดา) มีที่ดินทำการเกษตรที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ก็ไม่ต้องเสียภาษี แต่หากเป็นนิติบุคคลยังต้องเสียภาษี ไม่ได้รับการยกเว้นใดๆ

 

devil 🏡  ที่พักอาศัย   🏡 devil

 เพดานภาษีสูงสุด 0.3% 

  กรณีบ้านหลังหลัก โดยบุคคลธรรมดาเป็นเจ้าของทั้งที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน (บ้าน + ที่ดิน)

 อัตราภาษีที่กำหนดไว้

  • มูลค่าไม่ถึง 25 ล้านบาท  อัตราภาษี 0.03% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 300 บาท)
  • มูลค่าเกิน 25-50 ล้านบาท อัตราภาษี 0.05% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 500 บาท)
  • มูลค่า 50 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.10% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 1,000 บาท)

* กรณีบ้านหลังหลักที่เป็นเจ้าของบ้านและเจ้าของที่ดิน (เจ้าของบ้านอาศัยอยู่เอง) และมีชื่อในทะเบียนบ้าน จะได้รับการยกเว้นภาษี 50 ล้านบาทแรก เท่ากับว่า หากเราเป็นมีบ้านพร้อมที่ดินที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาทก็ไม่ต้องเสียภาษี

ดังนั้นเมื่อหักค่ายกเว้นแล้วจะต้องเสียภาษีดังนี้

 อัตราภาษีปี 2563-2564

  • มูลค่าไม่ถึง 50 ล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษี
  • มูลค่ามากกว่า 50-75 ล้านบาท อัตราภาษี 0.03%  
  • มูลค่ามากกว่า 75-100 ล้านบาท อัตราภาษี 0.05%
  • มูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.10%

 

  กรณีบ้านหลังหลัก โดยบุคคลธรรมดาเป็นเจ้าของเฉพาะสิ่งปลูกสร้าง และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

 อัตราภาษีที่กำหนดไว้

  • มูลค่าไม่ถึง 40 ล้านบาท  อัตราภาษี 0.02% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 200 บาท)
  • มูลค่าเกิน 40-65 ล้านบาท อัตราภาษี 0.03% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 300 บาท)
  • มูลค่าเกิน 65-90 ล้านบาท อัตราภาษี 0.05% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 500 บาท)
  • มูลค่า 90 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.10% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 1,000 บาท)

* กรณีเป็นเจ้าของเฉพาะบ้านอย่างเดียว (บ้านเจ้าของอยู่เองบนที่ดินเช่า) และมีชื่อในทะเบียนบ้าน จะได้รับการยกเว้นภาษี 10 ล้านบาทแรก แสดงว่า ถ้าเรามีบ้านปลูกสร้างอยู่บนที่ดินเช่า มูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท และมีชื่อในทะเบียนบ้าน จะไม่ต้องเสียภาษี

ดังนั้นเมื่อหักค่ายกเว้นแล้วจะต้องเสียภาษีดังนี้

 อัตราภาษีปี 2563-2564

  • มูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษี
  • มูลค่ามากกว่า 10-50 ล้านบาท อัตราภาษี 0.02%
  • มูลค่ามากกว่า 50-75 ล้านบาท อัตราภาษี 0.03%
  • มูลค่ามากกว่า 75-100 ล้านบาท อัตราภาษี 0.05%
  • มูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท อัตราภาษี 0.1%

 

  กรณีบ้านหลังอื่น ๆ เช่น บ้านหลังที่ 2 ขึ้นไป

 อัตราภาษีปี 2563-2564

  • มูลค่าไม่ถึง 50 ล้านบาท อัตราภาษี 0.02% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 200 บาท)
  • มูลค่าเกิน 50-75 ล้านบาท อัตราภาษี 0.03% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 300 บาท)
  • มูลค่าเกิน 75-100 ล้านบาท อัตราภาษี 0.05% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 500 บาท)
  • มูลค่า 100 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.10% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 1,000 บาท)

 

devil 🏭  กลุ่มอื่นๆ (พาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม)   🏭 devil

 เพดานภาษีสูงสุด 1.2% 

          หมายถึงที่ดินอื่น ๆ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรและการอยู่อาศัย เช่น เป็นที่ดินเพื่อเชิงพาณิชย์ รวมถึงการปล่อยบ้านเช่า ห้องเช่า คอนโดเช่า ฯลฯ ดังนั้น หากเรานำบ้านไปให้เช่า ถือว่าเข้าข่ายที่ดินเพื่อการพาณิชย์ 

 อัตราภาษีปี 2563-2564

  • มูลค่า 0-50 ล้านบาท อัตราภาษี 0.3%  (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 3,000 บาท)
  • มูลค่าเกิน 50-200 ล้านบาท อัตราภาษี 0.4%  (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 4,000 บาท)
  • มูลค่าเกิน 200-1,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.5%  (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 5,000 บาท)
  • มูลค่าเกิน 1,000-5,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.6% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 6,000 บาท)
  • มูลค่าเกิน 5,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.7% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 7,000 บาท)

 

devil 🏞  ที่ดินรกร้างว่างเปล่าไม่ได้ทำประโยชน์   🏞 devil

 เพดานภาษีสูงสุด 1.2% 
แต่จะเพิ่มเพดานเป็น 3% เมื่อปล่อยรกร้างว่างเปล่า ติดต่อกัน 3 ปี

หมายถึงที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้ทำประโยชน์ตามควร หรือถูกปล่อยทิ้งไว้ว่างเปล่า

  • มูลค่าเกิน 0-50 ล้านบาท อัตราภาษี 0.3%  (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 3,000 บาท)
  • มูลค่าเกิน 50-200 ล้านบาท อัตราภาษี 0.4%  (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 4,000 บาท)
  • มูลค่าเกิน 200-1,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.5%  (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 5,000 บาท)
  • มูลค่าเกิน 1,000-5,000 ล้านบาท อัตราภาษี 0.6%  (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 6,000 บาท)
  • มูลค่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษี 0.7% (เท่ากับต้องเสียภาษี ล้านละ 7,000 บาท)

     นอกจากนี้ หากปล่อยรกร้าง เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน จะถูกเก็บภาษีเพิ่มอีก 0.3% ในปีที่ 4 และถูกเก็บเพิ่มขึ้น 0.3% ทุก ๆ 3 ปี หากยังไม่ได้มีการนำมาทำประโยชน์ แต่สูงสุดไม่เกิน 3%

วิธีคำนวณภาษีที่ดิน

การคิดภาษีที่ดินแต่ละประเภทจะใช้มูลค่าทรัพย์สินที่ประเมินจากกรมธนารักษ์ โดยจะมีการปรับตามรอบบัญชีประเมินราคาทุก 4 ปี ซึ่งแยกวิธีคำนวณภาษีที่ต้องจ่ายออกเป็น ดังนี้ 

  • ที่ดินไม่มีสิ่งปลูกสร้าง  
    • ภาระภาษี = มูลค่าที่ดิน x อัตราภาษี  
    • โดยมูลค่าที่ดิน = ราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดิน (ต่อ ตร.ว.) x ขนาดพื้นที่ดิน
       
  • มีทั้งที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง  
    • ภาระภาษี = (มูลค่าที่ดิน + มูลค่าสิ่งปลูกสร้าง) x อัตราภาษี
    • โดยมูลค่าสิ่งปลูกสร้าง = (ราคาประเมินทุนทรัพย์โรงเรือนสิ่งปลูกสร้าง (ต่อ ตร.ม.) x ขนาดพื้นที่สิ่งปลูกสร้าง) - ค่าเสื่อมราคา
       
  • ห้องชุด
    • ภาระภาษี = มูลค่าห้องชุด x อัตราภาษี
    • โดยมูลค่าห้องชุด = ราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุด (ต่อ ตร.ม.) x ขนาดพื้นที่ห้องชุด (ตร.ม.)

(หมายเหตุ : กรมธนารักษ์จะเป็นผู้กำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดิน ราคาประเมินทุนทรัพย์โรงเรือน สิ่งปลูกสร้าง ราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุด และอัตราค่าเสื่อมราคา)

 

สามารถสรุปอัตราภาษีที่ต้องจ่ายของที่ดินแต่ละประเภทออกมาเป็นตารางได้ ดังนี้

🌾 เกษตรกรรม

  กรณีบุคคลธรรมดา

  • ปี 2563-2565 หากมีที่ดินเพื่อทำการเกษตร จะได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษีใด ๆ 
  • ปี 2566 เป็นต้นไป จะได้รับยกเว้นภาษีเฉพาะที่ดิน 50 ล้านบาทแรก/เขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หลังจากนั้นอาจเก็บภาษีตามขั้นบันได หรือตามอัตราภาษีสูงสุด แต่ต้องไม่เกิน 0.15%

 

🏡 ที่พักอาศัย

  กรณีทรัพย์สินมีมูลค่าไม่ถึง 50 ล้านบาทจะได้รับการยกเว้นภาษีไปเลย แต่หากมีส่วนเกิน ให้นำส่วนเกินมาคิดภาษี เช่น

  • นายบี มีบ้านพร้อมที่ดินมูลค่า 75 ล้านบาท และมีชื่อในทะเบียนบ้าน ส่วน 50 ล้านบาทแรกได้ยกเว้นภาษี ส่วนที่เหลืออีก 25 ล้านบาท นำมาคำนวณภาษี 0.03% เท่ากับต้องเสียภาษี 7,500 บาท

 

  กรณีมีบ้านบนที่ดินเช่า หรือปลูกสร้างบนที่ดินคนอื่น จะได้รับการยกเว้นภาษีเฉพาะ 10 ล้านบาทแรก หากมีส่วนเกินก็ให้นำมาคำนวณ เช่น

  • มีบ้านบนที่ดินเช่า มูลค่า 10 ล้านบาทพอดี และมีชื่อในทะเบียนบ้าน เท่ากับไม่ต้องเสียภาษี
  • มีบ้านบนที่ดินเช่า มูลค่า 30 ล้านบาท และมีชื่อในทะเบียนบ้าน ดังนั้น 10 ล้านบาทแรกได้รับการยกเว้น ส่วนที่เหลือ 20 ล้านบาท จะนำมาคิดภาษีที่ 0.02% เท่ากับต้องเสียภาษี 4,000 บาท

 

  กรณีมีบ้านหลังที่ 2 เป็นต้นไป จะถือเป็นบ้านหลังอื่น ๆ ซึ่งใช้อัตราภาษีตามตารางนี้ และไม่มีการยกเว้นภาษี ดังนั้น หากเรามีบ้านหลังที่ 2 3 4 5 มูลค่า 10 ล้านบาท ก็จะต้องคิดภาษี 0.02% เท่ากับต้องเสียภาษี 2,000 บาท

 

🏭 อื่นๆ (พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม)

  กรณีซื้อบ้านไว้เพื่อปล่อยเช่า จะต้องคิดภาษีในหมวดนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะต้องจ่ายภาษีสูงกว่าบ้านและที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย

          เช่น หากซื้อบ้านราคา 3 ล้านเพื่อปล่อยเช่า เราต้องจ่ายภาษี 0.3% ต่อปี คือ 9,000 บาท แต่หากเป็นบ้านเพื่อการอยู่อาศัย ถ้ามีชื่อในทะเบียนบ้านจะไม่ต้องเสียภาษีเลย หรือกรณีเป็นบ้านหลังที่ 2 เป็นต้นไป ก็จะเสียภาษี 0.02% หรือ 600 บาท/ปี

 

🏞 ที่ดินที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าไม่ได้ทำประโยชน์

  อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการบรรเทาภาระภาษี ใน 3 ปีแรกของของเรียกเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่ หากผู้เสียภาษีมีภาระที่ต้องจ่ายสูงกว่าที่เคยจ่ายภาษีโรงเรือนและที่ดิน หรือภาษีบำรุงท้องที่ ให้ผู้เสียภาษีชำระภาษีตามจำนวนประเมินในปีก่อนหน้าที่กฎหมายนี้บังคับใช้ แล้วเหลือภาระภาษีเท่าไร ให้ชำระส่วนที่เหลือ ดังนี้

  • ปีที่ 1 จ่าย 25% ของจำนวนภาษีที่เหลือ
  • ปีที่ 2 จ่าย 50% ของจำนวนภาษีที่เหลือ
  • ปีที่ 3 จ่าย 75% ของจำนวนภาษีที่เหลือ

 

สรุปอัตราภาษีที่และสิ่งปลูกสร้าง

คลิกดูอัตราภาษีและสิ่งปลูกสร้าง

          ทั้งนี้ อัตราการเก็บภาษีตามมูลค่าแบบขั้นบันไดดังกล่าว จะบังคับใช้ใน 2 ปีแรก (2563-2564) ส่วนปีต่อไปจะพิจารณาเก็บตามอัตราเพดานสูงสุดอีกที ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ถือเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรรู้ และศึกษาข้อมูลให้ดี จะช่วยให้เราสามารถวางแผน เพื่อจัดการกับภาษีในอนาคตได้ดีขึ้น

  • เลือกเครื่องฟอกอากาศ ลดฝุ่น PM2.5 แบบไหน วางไว้จุดไหนของบ้าน ได้ประสิทธิภาพกรองฝุ่นดีที่สุด
  • เปิดค่าธรรมเนียม การโอนที่ดิน 2568 ซื้อ-ขาย มอบที่ดินมรดกญาติ เปลี่ยนกรรมสิทธิ์ มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
  • 108 ปี หัวลำโพง 10 จุดเช็กอินประวัติศาสตร์ เรียนรู้ประวัติศาสตร์รถไฟไทยสุดคลาสสิค
  • หลังคาเมทัลชีท แบบไหนช่วยลดเสียงสะท้อน มีน้ำหนักเบาทนต่อสภาพอากาศ มีวิธีเลือกอย่างไร
  • รวมบริษัทรับสร้างบ้าน 2567 มีแบบบ้านให้เลือกหลากหลายสไตล์ ประหยัดงบ ตามเทรนด์คนรุ่นใหม่
  • ทาสแมวรู้ไว้ "สีขนแมว" บอกนิสัยได้ มีการเล่นที่แตกต่างกันอย่างไร
  • 10 เครื่องซักผ้าฝาหน้า เทคโนโลยีอัจฉริยะ ทำงานเงียบช่วยประหยัดน้ำ ยอดนิยมของปี 2024 ยี่ห้อไหนบ้าง
  • จำนอง กับ ขายฝาก เงินที่ได้ไม่เท่ากัน ควรรู้ก่อนทำสัญญา มีเสียภาษีอะไรบ้าง
  • เลือกแอร์แบบไหน ช่วยประหยัดไฟในช่วงหน้าร้อน พร้อมแนะนำทริค กับ เคล็ดลับประหยัดได้จริง
  • 10 เครื่องซักผ้าฝาหน้า เทคโนโลยีอัจฉริยะ ทำงานเงียบช่วยประหยัดน้ำ ยอดนิยมของปี 2024 ยี่ห้อไหนบ้าง
  • เลือกอิฐแบบไหน อิฐมอญ อิฐมวลเบา อิฐบล็อก เหมาะกับสร้างบ้าน ประหยัดงบมากที่สุด
  • หลังคาเมทัลชีท แบบไหนช่วยลดเสียงสะท้อน มีน้ำหนักเบาทนต่อสภาพอากาศ มีวิธีเลือกอย่างไร
  • เปิดค่าธรรมเนียม การโอนที่ดิน 2568 ซื้อ-ขาย มอบที่ดินมรดกญาติ เปลี่ยนกรรมสิทธิ์ มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
  • ร่วมใจ ร่วมฝัน พร้อมซื้อบ้าน การเตรียมตัวสำหรับซื้อบ้านร่วมกันครั้งแรกของคู่รัก
  • 108 ปี หัวลำโพง 10 จุดเช็กอินประวัติศาสตร์ เรียนรู้ประวัติศาสตร์รถไฟไทยสุดคลาสสิค
  • เมื่อเราเลิกกันบ้านนี้ใครได้ เมื่อต้องอย่าร้างเราควรจัดการทรัพย์สิน อย่างไร?
  • วิธีแก้เน็ตบ้านช้า หลุดบ่อย Wi-Fi ไม่เสถียร ต่อสายแลนเน็ตไม่เต็มสปีด
  • เลือกเครื่องฟอกอากาศ ลดฝุ่น PM2.5 แบบไหน วางไว้จุดไหนของบ้าน ได้ประสิทธิภาพกรองฝุ่นดีที่สุด
  • สีตราครุฑ โฉนดที่ดิน มีความหมายที่แตกต่างกัน สามารถชื้อ-ขายได้ตามกฎหมายอย่างไร
  • เจาะลึกอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2563 และวิธีการคำนวณภาษี

    ตั้งแต่ต้นปีนี้ พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2562 (พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง) ประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้เริ่มบังคับใช้เป็นกฎหมายเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2562 และกำหนดว่า จะเริ่มจัดเก็บภาษีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป โดยจะมาแทนที่การจัดเก็บภาษีบำรุงท้องที่และภาษีโรงเรือนและที่ดิน ซึ่งจะถูกยกเลิกไป

    @thaihometown Scroll