
7 โทนสีห้อง ตามหลักจิตวิทยา!!
สไตล์บ้านที่เราใช้ สไตล์ห้องที่เราตกแต่งมันมีมากกว่าเรื่องเฟอร์นิเจอร์ ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องนั้น ๆ ล้วนส่งผลต่ออารมณ์เราได้ทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องของสี ซึ่งสีเป็นสิ่งที่ช่วยดึงอารมณ์ให้เกิดความรู้สึกต่าง ๆ และเป็นตัวกำหนด Mood & Tone ของห้องได้อย่างมาก ก่อนที่เราจะตัดสินใจตกแต่งห้อง มาลองดูอารมณ์ของแต่ละสีกันดีกว่า ว่าจะสามารถดึงอารมณ์อะไรออกมาได้บ้างตามหลักจิตวิทยา เราไปดูกันเลยครับ
สีแดง

สีแดง เป็นสีที่ช่วยเพิ่มพลังงานให้ตัวเราได้มากถึงขีดสุด เหมาะกับห้องที่ต้องการความคึกคัก อย่างห้องนั่งเล่น หรือห้องครัว เพราะเป็นสีที่พอได้อยู่ในห้องนั้นแล้ว จะรู้สึกอยากชวนกันคุยขึ้นมาทันที หรือจะใช้กับกำแพงตรงทางเข้าบ้านก็ได้นะครับ เพราะจะช่วยดึงดูดความสนใจ และสร้างความประทับใจแรกพบได้อย่างดี

สีแดงแบบนี้ไม่ควรใช้กับห้องนอนหรือห้องอื่น ๆ ที่เราใช้พักผ่อนเด็ดขาด เพราะสีแดงจะเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เราตื่นตัว ทำให้ไม่มีสมาธิ และหลับยากได้
สีเหลือง

สีเหลือง เป็นเหมือนตัวแทนสีประกายของแสงอาทิตย์ ซึ่งจะให้ความรู้สึกของความสุข ความอบอุ่น และช่วยสร้างความสดใสร่าเริง แต่ก็เป็นสีที่มีผลข้างเคียงในทางลบได้ เพราะเป็นสีที่สะท้อนเข้าตาได้ชัดเจนเกินไป อาจกระตุ้นให้เกิดความขุ่นมัว และความโกรธได้

เพราะฉะนั้นสีเหลืองควรจะใช้แค่บริเวณพื้นที่เล็กๆ หรือใช้เป็นสีที่ต้องการทำให้เด่นขึ้นมาจากพื้นหลัง ไม่ควรไว้ในห้องนอน หรือห้องที่ใช้อ่านหนังสือหรือทำงานที่ต้องใช้สมาธิ
สีฟ้าหรือสีน้ำเงิน

สีฟ้าหรือสีน้ำเงิน เป็นสีที่ทำให้เกิดการผ่อนคลายได้มากที่สุด นิยมนำมาใช้เพื่อช่วยลดความดันเลือด และช่วยทำให้หายใจในจังหวะที่ช้าลง ไม่เร็วจนเกินไป เพราะฉะนั้นคนก็เลยนิยมใช้สีฟ้ามาทาในห้องนอน ห้องน้ำ และออฟฟิศ เพราะเป็นสีที่ช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้ดีเช่นกัน

พยายามหลีกเลี่ยงการใช้สีนี้ในห้องที่ต้องการความครึกครื้นอย่างห้องอาหาร และห้องนั่งเล่น เพราะสีฟ้าที่ดูสบายๆ นี่แหละ จะทำให้รู้สึกซึมลงได้ อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ควรต้องคำนึงถึงก็คือ เฉดความสว่างของสีฟ้าก็ส่งผลถึงระดับความผ่อนคลายได้ด้วย
สีเขียว

สีเขียว เป็นตัวแทนของสีธรรมชาติ เป็นสีที่ช่วยผ่อนคลายดวงตาได้ดีที่สุด เพราะจะช่วยดึงความสดชื่น และความผ่อนคลายออกมาได้อย่างดี

สีเขียวมีหลายเฉด ตั้งแต่เขียวล้วน จนถึงแบบผสมสีอื่น ถ้าเลือกใช้เฉดสีที่ถูก จะสามารถทำให้เรารู้สึกสงบได้ สีเขียวพาสเทลให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สีเขียวสว่างออกเหลืองทำให้รู้สึกมีพลังมาก แต่ถ้าใช้กับห้องใหญ่ ๆ อาจจะพลังล้นจนเกินไปได้ ฉะนั้นอยากให้ห้องไหนรู้สึกสดชื่นหรือเงียบสงบ ลองเลือกเฉดสีให้เหมาะกับอารมณ์ห้องนะครับ
สีม่วง

สีม่วง เป็นสีที่มีการผสมผสานระหว่างสีแดง และสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีที่สร้างบาลานซ์ระหว่างความความมีสติ และความผ่อนคลาย สีม่วงเฉดเข้ม จะเป็นสีที่ค่อนข้างเร้าอารมณ์ควบคู่ไปกับความหรูหรา เหมาะกับโฮมออฟฟิศ หรือห้องที่ใช้ทำงาน

ส่วนสีม่วงโทนสว่างอย่างสีลาเวนเดอร์จะให้ผลลัพธ์เดียวกับสีฟ้า แต่ไม่ได้ทำให้ชิลล์มากจนเกินไปเหมือนกับสีฟ้า เหมาะกับห้องนอน หรือห้องเด็กเล็ก
สีส้ม

สีส้ม เป็นสีที่มีแนวโน้มในการกระตุ้นให้เราเกิดความรู้สึกตื่นเต้น และกระตือรือร้นมากขึ้น พูดไปก็คล้าย ๆ กับสีแดง พอได้มายืนอยู่ในห้องที่ทาสีส้ม จะทำให้รู้สึกมีพลังงานเพิ่มขึ้นมาทันที

ใครอยากมีหุ่นดี ๆ เลือกวอลเปเปอร์สีส้มมาใช้ในห้องออกกำลังกาย ก็อาจเป็นตัวเลือกที่ดีครับ แต่อย่าเผลอเอามาใช้ในห้องนอนนะครับ
►► สีโทนกลาง

เป็นสีที่ไม่โดดเด่นจี๊ดจ๊าดเท่าไหร่ เช่น สีดำ สีขาว น้ำตาล และเทา ซึ่งเป็นสีที่มีคุณลักษณะต่างกันไป
- สีดำ เป็นตัวแทนแห่งพลัง และความโก้เก๋ ช่วยสร้างห้องให้ดูมีความลึกได้ดี
- สีขาว สะท้อนถึงความสะอาด และความบริสุทธิ์ สามารถนำมาทาเป็นพื้นหลังของสีอื่นได้
- สีน้ำตาล โทนน้ำตาล เป็นสีที่ให้ความรู้สึกคลาสสิค ดูอบอุ่น เป็นกันเอง
สีดังกล่าวเป็นสีที่เหมาะกับการใช้ในพื้นที่เล็ก ๆ เพื่อช่วยลดความเด่นของสีอื่น ๆ เช่น ใช้สีขาวคู่กับสีแดง ก็จะช่วยให้ห้องดูซอฟต์ลงได้
เนื่องจากสีมีผลต่ออารมณ์ของเรา ฉะนั้นก่อนจะเลือกจัดห้องให้เป็นสีไหนควรตัดสินใจดี ๆ ก่อน ไม่ว่าจะเป็นสีจากกำแพง หรือเฟอร์นิเจอร์ ล้วนแล้วแต่มีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของเราได้เหมือนกันครับ 