13 วิธีทำความสะอาดของใช้เด็ก-ของเล่นเด็ก กำจัดเชื้อโรค ลดเสี่ยงอันตราย

     โรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่มักจะระบาดหนักในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ทำให้มีอาการป่วยเป็นไข้และหลอดลมฝอยอักเสบ กำลังกลับมาระบาดอีกครั้ง ไหนจะบวกกับเชื้อโควิด 19 ที่ยังไม่จางหายไปอีก ก็เลยทำให้คุณพ่อ-คุณแม่หลายคนเริ่มกังวลและเป็นห่วงความปลอดภัยและสุขอนามัยของลูกกันคูณสอง ฉะนั้นวันนี้เราก็เลยรวบรวมวิธีทำความสะอาด ของใช้สำหรับเด็กและของเล่นเด็กมาฝากกัน เพื่อช่วยกำจัดเชื้อโรค ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และบอกลาสิ่งสกปรกบนของใกล้ตัว จนทำให้ลดความเสี่ยงอันตรายและป้องกันโรคต่าง ๆ ได้ดีขึ้น

 

1. เสื้อผ้า

     วิธีซักเสื้อผ้าเด็กให้สะอาด ปราศจากเชื้อโรคกวนใจ ขั้นแรกต้องนำน้ำยาซักผ้าเด็กที่มีสารฆ่าเชื้อโรคแต่อ่อนโยนและปลอดภัย มากำจัดคราบน้ำมูก คราบน้ำลาย และคราบสกปรกต่าง ๆ ออกให้เกลี้ยงก่อน เนื่องจากคราบเหล่านี้จะทำให้เกิดแบคทีเรียสะสมจนเกิดอันตราย  ฉะนั้นจึงต้องขัดออกให้เอี่ยมก่อนจะแช่ลงในภาชนะที่ผสมน้ำส้มสายชูหมักจากไวน์ขาว 1-2 ฝา เข้ากับน้ำเปล่า 1 ถัง ปล่อยทิ้งไว้ 30 นาที แล้วค่อยหยิบออกมาซักแบบปกติได้เลย

 

2. เป้อุ้มเด็ก

     ส่วนใหญ่แล้วเป้อุ้มเด็กสามารถทำความสะอาดในเครื่องซักผ้าได้ตามปกติเลย โดยให้ใช้ฟังก์ชันน้ำเย็นกับผงซักฟอกสูตรอ่อนโยนจะดีที่สุด ส่วนการทำให้แห้ง ถ้ายี่ห้อก็ใส่ในเครื่องอบผ้าได้ก็ใส่ ถ้ายี่ห้อไหนใส่ไม่ได้ก็นำไปตากแดด แนะนำให้อ่านฉลากบนผลิตภัณฑ์ให้ดี ที่สำคัญคือ เป้อุ้มเด็กควรล้างให้สะอาดก่อนใช้ครั้งแรก แต่ไม่ต้องจำเป็นต้องล้างหลังใช้งานทุกครั้ง ให้เว้นระยะได้ตามความสะดวกและเหมาะสม ถ้าเสี่ยงเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียมาก ก็ให้ล้างบ่อยขึ้นหน่อย นอกจากนี้ยังสามารถทำความสะอาดเป็นจุด ๆ ด้วยการนำผ้าไปชุบน้ำที่ผสมสบู่หรือผงซักฟอกสูตรอ่อนโยนมาแต้มและซับเบา ๆ แทนก็ได้

3. รถเข็นเด็ก

     รถเข็นเด็กก็เป็นอีกหนึ่งของใช้ที่ต้องทำความสะอาด โดยบางยี่ห้อสามารถถอดส่วนที่เป็นผ้าออกมาซักในเครื่องซักผ้าได้ แต่บางรุ่นก็ไม่แนะนำให้ถอดและซัก ฉะนั้นจึงต้องทำความสะอาดด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำผสมสบู่อ่อน ๆ แทน ทั้งนี้เราไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดหลังใช้งานเสร็จทุกครั้ง เพียงแค่หมั่นดูแลรักษาเป็นประจำ อย่าปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป ไม่เช่นนั้นจะยิ่งจัดการยาก รวมถึงบริเวณที่จับรถเข็น ซึ่งเป็นจุดที่ต้องสัมผัสบ่อย ก็สามารถใช้ผ้าเปียกทำความสะอาด หรือฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรค แล้วเช็ดออกด้วยผ้าขนหนู หรือกระดาษทิชชูแทนก็ได้เหมือนกัน

 

4. คาร์ซีท

     สำหรับคาร์ซีทที่ทำความสะอาดในเครื่องซักผ้าไม่ได้ ให้เราผสมน้ำอุ่นกับสบู่สูตรอ่อนโยนเข้าด้วยกัน จากนั้นนำผ้าสะอาดชุบลงไปและบิดให้พอเปียกหมาด นำไปเช็ดให้ทั่วทั้งเบาะ รวมถึงเข็มขัดและสายรัดด้วย เสร็จแล้วก็ผึ่งให้แห้ง ดูดฝุ่น สิ่งสกปรก และเศษอาหารออกก่อนประกอบกลับเข้าไปใหม่ ควรทำแบบนี้เป็นประจำ หรือทุกครั้งที่ลูกทำเลอะ ที่สำคัญอย่าลืมอ่านคำแนะนำบนฉลากให้ดีด้วยล่ะ

 

5. โต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อม

     เพียงแค่ฉีดสเปรย์สูตรแอนตี้แบคทีเรียที่ผลิตมาจากวัตถุดิบธรรมชาติลงบนโต๊ะ แล้วนำกระดาษทิชชูมาเช็ดออก ก็จะช่วยให้โต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อมของคุณสะอาดทันใจ กำจัดเชื้อโรคและสิ่งสกปรกได้ทันตาเห็นแล้ว

6. เก้าอี้ทรงสูงของเด็ก

     วิธีทำความสะอาดเก้าอี้ทรงสูงของเด็ก ให้ผสมน้ำส้มสายชูขาว 1 ถ้วย และน้ำโซดา 1 ถ้วย เข้าด้วยกัน ถ้าหากใครไม่ชอบกลิ่น ก็เติมน้ำมันหอมระเหยลงไป 8 หยด คนเบา ๆ ให้เข้ากัน จากนั้นจุ่มผ้าไมโครไฟเบอร์ลงไป แล้วนำมาเช็ดทำความสะอาดให้ทั่วเก้าอี้ โดยน้ำส้มสายชูจะเป็นตัวการจัดการเชื้อโรคและแบคทีเรียแบบธรรมชาติ โดยไม่ทำร้ายผิวของทารกเลยไม่แต่นิดเดียว

 

7. อ่างอาบน้ำเด็ก

     อ่างอาบน้ำเด็กจำเป็นต้องทำความสะอาดทั้งก่อนและหลังใช้งาน โดยก่อนใช้ให้ฉีดสเปรย์สูตรธรรมชาติลงไป แล้วเช็ดตามด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ เนื่องจากผ้าชนิดนี้สามารถดักจับสิ่งปรกออกจากอ่างอาบน้ำได้เป็นอย่างดี ส่วนหลังอาบน้ำให้ฉีดสเปรย์สูตรแอนตี้แบคทีเรียลงไปเพื่อช่วยป้องกันและทำความสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

 

8. ของเล่นเด็ก

• ตุ๊กตาขนฟู
  • ตุ๊กตา เป็นของเล่นเด็กที่เกือบทุกบ้านต้องมี ซึ่งถ้าชิ้นไหนสามารถซักในเครื่องได้ ก็ให้นำปลอกหมอนมาหุ้มและผูกปมไว้ จากนั้นก็ซักและอบในเครื่องตามปกติได้เลย อย่าลืมเลือกโหมดอ่อนโยนและโหมดถนอมใยผ้า ใช้น้ำอุ่นและน้ำยาสำหรับเด็ก เสร็จแล้วก็ผึ่งลมให้แห้ง หรือใช้ไดร์ความร้อนต่ำช่วยเป่า แต่พอตุ๊กตาใกล้แห้งสนิท ให้เปลี่ยนเป็นความร้อนกลางเพื่อช่วยให้ขนฟูนุ่มขึ้น
  • ส่วนสำหรับตุ๊กตาที่ซักเครื่องไม่ได้ ให้ผสมน้ำอุ่นกับน้ำสบู่หรือแชมพูเด็กเข้าด้วยกัน ใช้ผ้าจุ่มลงไปแล้วเช็ดให้ทั่วตัวตุ๊กตา จากนั้นใช้ผ้าอีกผืนจุ่มลงไปในน้ำสะอาดแล้วเช็ดให้ทั่วตุ๊กตาอีกครั้งแทนการล้าง เสร็จแล้วผึ่งลมให้แห้ง หรือใช้ไดร์เป่าผมช่วย หากบ้านใครมีเครื่องรีดไอน้ำถนอมผ้าจะนำมาใช้กำจัดไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ก็ได้ ไม่เช่นนั้นก็สามารถดูดสิ่งสกปรกออกด้วยเครื่องดูดฝุ่นได้เหมือนกัน
• ตุ๊กตาผู้หญิง
  • ของเล่นที่สาว ๆ ต้องมีอย่างตุ๊กตาเจ้าหญิง หรือตุ๊กตาบาร์บี้ ต้องทำความสะอาดแบบแยกเป็นส่วน ๆ โดยเริ่มแรก ส่วนร่างกาย ซึ่งมักจะทำจากพลาสติก ให้ล้างด้วยน้ำยาซักผ้าธรรมดาได้เลย ส่วนไอเทมที่ทำจากผ้า ให้ใช้น้ำผสมแชมพูเล็กน้อยในการล้าง อย่าลืมตากให้แห้งก่อนด้วย สุดท้ายเป็นส่วนผม ที่ดูแลยากเพราะพันกันง่าย ให้ดูแลคล้ายผมของเรา คือ สระด้วยแชมพูเด็กเบา ๆ วนน้อย ๆ แค่นี้ก็ช่วยให้ตุ๊กตาของลูกสะอาดใส เหมือนใหม่ น่าใช้งานขึ้นมากแล้ว
• ​ของเล่นที่ทำจากพลาสติก
  • ​​ส่วนใหญ่แล้วของเล่นเด็กมักจะทำจากพลาสติก เพราะนอกจากจะแข็งแรง ทนทาน ยังทำความสะอาดง่ายมาก จะใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมน้ำสบู่ หรือผ้าชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานมาเช็ดก็ได้ หากมีซอก มีมุม ก็ให้ใช้แปรงสีฟันเก่าเข้าช่วย เสร็จแล้วก็แขวนตากไว้ให้แห้งสนิทก่อนจะนำมาให้ลูกเล่น หรือถ้าใครมีเครื่องล้างจานที่บ้าน จะใส่ลงไปในเครื่องก็เวิร์กเหมือนกัน
  • ทว่าถ้าหากใครอยากฆ่าเชื้อให้หมดเกลี้ยงจริง ๆ สามารถใช้ผ้าเปียกที่ผสมน้ำยาซักผ้าขาว Clorox หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ Lysol มาเช็ดจนพื้นผิวเปียกชุ่มสักประมาณ 10 วินาทีก็ได้ หรือจะใช้ผ้าจุ่มสารละลายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 3% ก็เข้าท่าไม่น้อย ไม่เช่นนั้นก็ให้ผสมสารฟอกขาว ½ ถ้วย เข้ากับน้ำ 1 แกลลอน แล้วนำไปเช็ดให้ทั่วของเล่นเป็นเวลา 5 นาที ซึ่งวิธีทั้งหมดนี้ เมื่อทำเสร็จแล้วอย่าลืมรอให้แห้ง ค่อยล้างน้ำสะอาดออกอีกครั้งเพื่อกำจัดสารตกค้าง จากนั้นตากให้แห้งอีกที เท่านี้ก็ช่วยกำจัดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว
• ของเล่นในห้องน้ำ
  • เพราะของเล่นในห้องน้ำมักจะเปียกอยู่ตลอดเวลา แถมยังเก็บอยู่ในที่ชื้น จึงเสี่ยงสะสมจุลินทรีย์ เชื้อโรค และเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำความสะอาดทุกวัน ล้างด้วยน้ำร้อนหลังจากใช้งานเสร็จทุกครั้ง บีบให้ไหลออกหมด แล้วนำไปแขวนผึ่งลมไว้จนแห้ง หรือใครขยันสักหน่อย จะแช่ค้างคืในน้ำยาทำความสะอาด แล้วค่อยนำมาตากให้แห้งก็ได้ หรือหากใครอยากำจัดเชื้อโรคให้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็สามารถใช้วิธีเดียวกับของเล่นจากพลาสติกได้เลย
• ของเล่นที่ทำจากไม้
  • การทำความสะอาดของเล่นไม้ต้องใช้ความใส่ใจและระวังมากกว่าของเล่นชนิดอื่นเล็กน้อย โดยให้เริ่มด้วยการผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน จากนั้นก็นำผ้าไปจุ่มเล็กน้อย บิดให้เปียกหมาดน้อยที่สุด แล้วนำมาเช็ดหรือซับให้ทั่วของเล่น ซึ่งเคล็ดลับสำคัญ คือ อย่าทำให้ของเล่นเปียกชุ่มมากเกินไป ไม่งั้นอาจทำลายโครงสร้างได้ นอกจากนี้อย่าปล่อยผึ่งลมไว้เป็นเวลานาน ควรรีบทำให้แห้งเร็วที่สุด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่จะเสียหายลงนั่นเอง
• ของเล่นที่ทำจากยาง
  • เห็นของเล่นที่ทำจากยางผิวนุ่ม น่าสัมผัสขนาดนี้ ต้องบอกเลยว่าความจริงเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นยอด ถ้าไม่ล้างทำความสะอาดเป็นประจำละก็ คงไม่ดีกับสุขอนามัยของลูกน้อยแน่นอน ฉะนั้นต้องหมั่นทำความสะอาดประจำ โดยก่อนซักให้แช่ของเล่นเหล่านี้ไว้ในน้ำสบู่อย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อช่วยคลายคราบสกปรก จากนั้นค่อยใช้มือขัด ๆ ถู ๆ เพื่อทำความสะอาด หรือจะใช้ฟองน้ำช่วยขจัดคราบที่ฝังอยู่ก็ได้
  • อย่างไรก็ตาม หากคราบสกปรกฝั่งแน่นมากจนไม่ยอมหลุด หรือมครอยากกำจัดเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียอย่างมีประสิทธิภาพ ให้หันมาลองใช้แปรงสีฟันคู่กับน้ำส้มสายชู ก็จะช่วยได้มากขึ้น
• ของเล่นที่ทำจากซิลิโคน
  • ของเล่นที่เหนียว ทนทาน และค่อนข้างคล้ายยางชนิดนี้ สามารถทำความสะอาดได้ด้วยการผสมน้ำอุ่นกับน้ำยาฆ่าเชื้อหรือแชมพูเด็กเข้าด้วยกัน จากนั้นก็ใส่ของเล่นลงไปแช่ไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนจะนำออกมาขัด ๆ ถู ๆ ด้วยผ้าหรือแปรงสีฟัน เสร็จแล้วก็ล้างน้ำออกให้สะอาด พร้อมทั้งผึ่งให้แห้งก่อนจะนำไปให้ลูกน้อยเล่นอีกครั้ง
• ของเล่นอิเล็กทรอนิกส์
  • สำหรับของเล่นอิเล็กทรอนิกส์ ของเล่นที่ต้องใช้ไฟฟ้า หรือของเล่นที่ต้องใช้แบตเตอรี่ ต้องระมัดระวังในการทำความสะอาดให้ดี ไม่งั้นอาจเสียหายได้ โดยมีขั้นตอน คือ ปิดเครื่องแล้วถอดปลั๊กหรือถอดแบตเตอรี่ออก จากนั้นก็มาทำความสะอาดพื้นผิวภายนอก ด้วยการใช้ผ้าสะอาดจุ่มน้ำสบู่ ใช้แผ่นเช็ดทำความสะอาด ใช้ผ้าจุ่มแอลกอฮอล์ ใช้ผ้าจุ่มน้ำยาฆ่าเชื้อโรค หรือใช้ผ้าจุ่มน้ำผสมคลอรีน บลีช อัตรา 1 ควอร์ต/4 ช้อนชา (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง) บิดน้ำออกให้พอหมาด แล้วนำไปเช็ดเพื่อขจัดสิ่งสกปรกให้ทั่ว รวมถึงรอบปุ่มกด ซอกหลีบ และรอยเหนียวด้วย ปล่อยให้เปียกไว้อย่างน้อย 5 นาที ระวังอย่าให้น้ำไหลซึมเข้าไปในหน้าจอหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า จากน้ำล้างออกให้สะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ผึ่งลมให้แห้งสนิท ก็จะช่วยฆ่าไวรัสและแบคทีเรียได้อย่างง่ายดาย
• รถของเล่น
  • ของเล่นที่ต้องขี่ ต้องนั่งด้านบน เช่น รถของเล่น รถจักรยาน มักจะถูกใช้งานไปทั่วบ้าน ทำให้ได้รับสิ่งสกปรกและจุลินทรีย์หลากหลายชนิด ดังนั้นจึงต้องหมั่นทำความสะอาดสม่ำเสมอ โดยให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำผสมน้ำยาฆ่าเชื้อ แล้วเช็ดให้ทั่วทุกส่วนบนของเล่น เท่านี้ก็จะช่วยให้กลับมาสะอาดเหมือนใหม่ ไร้เชื้อโรคกวนใจ พร้อมใช้งานได้อีกครั้งแล้ว

9. ยางกัดและจุกนมปลอม

     นอกจากการล้างด้วยน้ำยาล้างจานของเด็กแล้ว เรายังต้องนำจุกนมปลอม หรือยางกัดสำหรับเด็ก ไปต้มในน้ำร้อนเพื่อช่วยกำจัดเชื้อโรคและฆ่าเชื้อแบคทีเรียด้วย โดยควรทำแบบนี้เป็นประจำทุกวัน หรือทำทุกครั้งหลังลูกทำตกพื้น สัตว์เลี้ยงมาเลีย หรือมีสิ่งสกปรกมามาเกาะ

 

10. ขวดนมเด็ก

     คุณพ่อ-คุณแม่ส่วนใหญ่ มักจะล้างขวดนมเด็กด้วยการผสมน้ำเปล่าเข้ากับสบู่หรือน้ำยาล้างจานเด็ก จากนั้นก็ใช้แปรงทะลวงเข้าไปจัดการภายในทุกซอกทุกมุม ฉะนั้นถ้าจะให้การล้างขวดนมเป็นไปอย่างดีและมีประสิทธิภาพ อย่าลืมทำความสะอาดแปรงล้างขวดเป็นประจำทุกวัน หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้งด้วย

 

11. อุปกรณ์การกินของเด็ก

     การล้างอุปกรณ์การกินของเด็ก เช่น จาน ชาม ถ้วย ช้อน ก็เหมือนกับการล้างอุปกรณ์การกินของผู้ใหญ่เลย คือ สามารถล้างได้ด้วยมือ เริ่มต้นด้วยการฉีดน้ำ ตามด้วยเช็ดสบู่หรือน้ำยาล้างจานเด็กสูตรอ่อนโยน จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่นที่สะอาด หรือหากใครมีเครื่องล้างจาน แค่ใส่ลงไปในนั้นเลยก็จบ ทว่าสิ่งสำคัญ คือ ต้องล้างภาชนะทุกชิ้นทันทีหลังใช้งานเสร็จ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคสะสมและหมักหมมนั่นเอง

12. อุปกรณ์สำหรับเด็กที่ทำจากผ้า

     อุปกรณ์อื่น ๆ ของเด็กที่ทำมาจากผ้า สามารถตรวจสอบวิธีทำความสะอาดได้ที่ฉลาก หรือไม่ก็บนเว็บไซต์ของสิ่งของเหล่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะซักด้วยโหมดอ่อนโยนของเครื่องซักผ้าได้

 

13. อุปกรณ์สำหรับเด็กที่ทำจากพลาสติก

     ส่วนอุปกรณ์สำหรับเด็กที่ทำจากพลาสติก ถ้ามีขนาดเล็ก ให้ผสมสบู่กับน้ำลงในอ่าง แล้วก็แช่ลงไปได้เลย แต่ถ้ามีขนาดใหญ่ ก็ให้ใช้สายยางฉีด แล้วตามด้วยถูด้วยสบู่ ก่อนจะฉีดน้ำล้างอีกรอบ หรือถ้าสกปรกไม่มาก อาจจะใช้ผ้าหรือกระดาษชุบน้ำมาถู ๆ เช็ด ๆ เพื่อทำความสะอาดแทนก็ได้

     อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่อยากกำจัดเชื้อโรคและสิ่งสกปรกออกไปให้เกลี้ยง สามารถหาซื้อน้ำยาฆ่าเชื้อที่ได้รับการรับรองจาก EPA มาใช้จะดีที่สุด หรือไม่ก็ทำเองด้วยการผสมน้ำยาฟอกขาว 1/3 ถ้วย เข้ากับน้ำเปล่า 1 แกลลอน รับรองบอกลาเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียได้เหมือนกัน

     หากอยากให้ข้าวของเครื่องใช้รอบตัวลูกสะอาดปลอดภัย ถูกสุขอนามัย ไร้เชื้อโรคกวนใจ ก็อย่าลืมนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับใช้กันละ