
เลือกแอร์ยี่ห้อไหน ช่วยประหยัดไฟ 2567 ลดการใช้พลังงาน ประหยัดแบบยาวๆ
วันนี้มีอีกหนึ่งทางเลือกมาฝาก เผลอแป๊ปเดียวก็จะถึงหน้าร้อนเสียแล้ว ยิ่งบ้านไหนที่กำลังอยากจะเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศใหม่ เพราะแอร์เครื่องเก่ากินไฟจนเกินรับไหว ทำให้ค่าไฟพุ่งกระฉูดแบบฉุดไม่อยู่ หากใครที่กำลังดู ๆ อยู่ว่าจะซื้อแอร์รุ่นไหนประหยัดไฟดี หรือแอร์แบบไหนจะตอบโจทย์กับทุกคนในบ้าน ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกมาฝากไว้ดับร้อนที่บ้าน
แนะนำกับแอร์ประหยัดไฟ พร้อมค่าไฟเฉลี่ยต่อปีที่บอกเลยว่าติดแล้วคุ้ม เพราะนอกจากจะใช้ได้นาน ๆ แล้ว ยังเป็นรุ่นที่ใช้พลังงานน้อย พร้อมแนะนำวิธีเลือกซื้อแอร์ดี ๆ พร้อมบอกข้อมูลครบตัวเครื่องอย่างถ้วน มาแชร์ต่อกัน

5 วิธีเลือกซื้อแอร์ ตรงกับความต้องการของผู้ใช้จริง
►เลือกแอร์รุ่นประหยัดไฟมีระบบอินเวอร์เตอร์
ใครที่สงสัยว่าควรเลือกแอร์ยี่ห้อไหนดีที่สามารถช่วยประหยัดไฟ ขอแนะนำให้เลือกใช้แอร์ที่มีระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) เพราะเป็นระบบที่ช่วยประหยัดพลังงานได้จริง เนื่องจากเป็นระบบที่ควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ จึงทำให้คอมเพรสเซอร์ของแอร์ไม่ต้องทำงานหนัก ส่งผลให้ใช้ไฟฟ้าน้อยลง ต่างจากระบบแอร์ธรรมดาที่เครื่องคอมเพรสเซอร์จะตัดการทำงานลงเมื่ออุณหภูมิในห้องเริ่มต่ำกว่าระดับที่ตั้งไว้ แต่หากอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น คอมเพรสเซอร์ก็จะเริ่มกลับมาทำงานใหม่อีกครั้ง ทำให้ต้องดึงพลังงานไฟฟ้ามาใช้มากขึ้น
►ทำงานเงียบไม่ส่งเสียงรบกวน
เชื่อว่าพื้นที่ภายในบ้านที่คนนิยมติดตั้งแอร์กันมากที่สุด ต้องเป็นห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น เราจึงควรเลือกซื้อแอร์ที่มีระบบการทำงานที่เงียบ ไร้เสียงรบกวน เพื่อให้สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องหงุดหงิดกับเสียงแอร์ที่กวนใจ
►มีระบบฟอกอากาศ
อากาศที่เต็มไปด้วยมลพิษ ไม่ว่าจะเป็นควันรถยนต์จากท้องถนน ฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง หรือฝุ่น PM 2.5 อีกทั้งเชื้อโรคต่าง ๆ ล้วนส่งผลเสียต่อร่างกาย แต่สามารถป้องกันได้ ด้วยการเลือกซื้อแอร์ที่มีระบบฟอกอากาศ ที่สามารถกรองฝุ่นละอองที่มีอนุภาคใหญ่ ด้วยแผ่นกรอง หรือการดักจับฝุ่นละอองและเชื้อโรคด้วยไฟฟ้าสถิต เพื่อให้อากาศภายในบ้านสะอาดบริสุทธิ์ ดีต่อสุขภาพของทุกคนในครอบครัว
►เลือกจากคุณสมบัติพิเศษของแอร์
อีกหนึ่งสิ่งที่ควรคำนึงถึงในการเลือกซื้อแอร์ คือเรื่องของฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมการทำงานจากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟน ที่จะช่วยให้คุณสามารถเปิดปิดแอร์ได้จากขณะอยู่ในรถ เมื่อถึงบ้านก็เย็นสบายได้ทันที หรือแอร์ที่สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหว เพื่อปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม ซึ่งคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้ จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว
►ดีไซน์สวยงามเข้ากับสไตล์ของห้อง
สิ่งสุดท้ายที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกซื้อแอร์ก็คือ ควรเลือกแอร์ที่มีดีไซน์สวยงามเข้ากับสไตล์การตกแต่งของห้อง เพราะจะทำให้ห้องดูเป็นระเบียบ น่ามอง และสร้างสุนทรียภาพที่ดีให้กับทุกคนในบ้าน
แนะนำแอร์ประหยัดไฟ 2567 รุ่นที่คุ้มค่าช่วยเซฟงบค่าใช้จ่ายยาวๆ
1. แอร์ แบรนด์ TCL รุ่น T-PROS10

TCL รุ่น T-PROS10 แอร์ประหยัดไฟที่มาพร้อมเทคโนโลยี Smart Gentle Cool Wind ให้ลมเย็นแบบนุ่มนวล กระจายลมได้ 4 ทิศทาง และทำความเย็นได้เร็วภายใน 30 วินาที อีกทั้งยังมี Titan Gold ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อโรคต่าง ๆ รวมไปถึงระบบ Self-Cleaning สามารถทำความสะอาดแผงคอยล์เย็นได้เอง
✔️ ขนาด : 10,350 BTU
✔️ ค่า SEER : 24.74
✔️ ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 : 5 ดาว
✔️ ค่าไฟเฉลี่ยต่อปี : 6,108 บาท
ราคา : 16,990 บาท
2. แอร์ แบรนด์ Fujitsu รุ่น ASMG09CGTA

Fujitsu รุ่น ASMG09CGTA แอร์ประหยัดไฟ ให้ความเย็นได้ตรงจุดด้วย Human Sensor ช่วยตรวจจับการเคลื่อนไหวของคนภายในห้องผ่าน Pyroelectric Infrared พร้อมระบบ Super Max Cooling ช่วยให้ความเย็นภายในเวลาอันรวดเร็วไม่ต้องรอนาน และคอมเพรสเซอร์ประสิทธิภาพสูง แข็งแรงทนทาน พร้อมป้องกันสัตว์และแมลงกัดแผงวงจร
✔️ ขนาด : 9,257 BTU
✔️ ค่า SEER : 24.81
✔️ ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 : 5 ดาว
✔️ ค่าไฟเฉลี่ยต่อปี : 5,448 บาท
ราคา : 23,890 บาท
3. แอร์ แบรนด์ Panasonic รุ่น CS/CU-XU9AKT 9518

Panasonic รุ่น CS/CU-XU9AKT 9518 แอร์ประหยัดไฟที่มีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทั้ง NanoeX ช่วยลดมลพิษในอากาศ NanoeG ช่วยกรองฝุ่น PM2.5 อินเวอร์เตอร์อัจฉริยะช่วยควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมและรักษาอุณหภูมิให้คงที่ พร้อม Aerowings ช่วยกระจายลมให้ทั่วถึง นอกจากนี้ยังมี A.I. Eco โหมดช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย
✔️ ขนาด : 9,518 BTU
✔️ ค่า SEER : 25.56
✔️ ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 : 5 ดาว
✔️ ค่าไฟเฉลี่ยต่อปี : 5,437 บาท
ราคา : 25,250 บาท
4. แอร์ แบรนด์ Carrier รุ่น 42TVAB013A-B-I

Carrier รุ่น 42TVAB013A-B-I แอร์ประหยัดไฟ มาพร้อมระบบ Gentle Touch ช่วยกระจายลมเย็นแบบสบาย ลดการปะทะป้องกันการระเคืองผิวหนัง และยังมี X-Ionizer ช่วยดักจับฝุ่นในอากาศรวมไปถึง PM2.5 เชื้อไวรัส แบคทีเรีย สารก่อภูมิแพ้และสารเคมี อีกทั้งยังช่วยประหยัดไฟ และสั่งการผ่านแอปพลิเคชันพร้อมเช็กการทำงานได้แบบ Real Time ด้วย
✔️ ขนาด : 12,200 BTU
✔️ ค่า SEER : 24.56
✔️ ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 : 5 ดาว
✔️ ค่าไฟเฉลี่ยต่อปี : 7,252 บาท
ราคา : 29,400 บาท
5. แอร์ แบรนด์ Samsung รุ่น AR13CYHAAWKNST

แอร์ Samsung รุ่น AR13CYHAAWKNST ปล่อยลมเย็นสบายไม่ปะทะตัวด้วยระบบ WindFree พร้อม 4-in-1 Filter ช่วยกรองฝุ่น PM2.5 นอกจากนี้ยังมี AI วิเคราะห์สภาพแวดล้อมและรูปแบบการใช้งาน พร้อมช่วยปรับโหมดต่าง ๆ ให้เหมาะกับสภาพอากาศโดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังช่วยประหยัดไฟไปในตัว แถมยังสามารถสั่งการได้ทุกที่ผ่านแอปฯ SmartThing
✔️ ขนาด : 12,000 BTU
✔️ ค่า SEER : 25.30
✔️ ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 : 5 ดาว
✔️ ค่าไฟเฉลี่ยต่อปี : 6,925 บาท
ราคา : 33,990 บาท
6. แอร์ แบรนด์ Mitsubishi Heavy รุ่น SRK35ZSXS-W1

Mitsubishi Heavy รุ่น SRK35ZSXS-W1 มีทั้งระบบกระจายความเย็นให้ทั่วถึงและให้ความเย็นอย่างรวดเร็ว พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวเพื่อป้องกันการใช้ไฟฟ้าเกินความจำเป็น นอกจากนี้ยังช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ กำจัดทั้งฝุ่นขนาดเล็กระดับ PM2.5 รวมถึงแบคทีเรียและสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ด้วย
✔️ ขนาด : 12,103 BTU
✔️ ค่า SEER : 24.67
✔️ ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 : 5 ดาว
✔️ ค่าไฟเฉลี่ยต่อปี : 7,163 บาท
ราคา : 37,500 บาท
7. แอร์ แบรนด์ Daikin รุ่น KZ SERIES FTKZ12VV2S

แอร์ Daikin รุ่น KZ SERIES FTKZ12VV2S แอร์ประหยัดไฟที่มีเทคโนโลยี Streamer ช่วยฟอกอากาศพร้อมกรองฝุ่นขนาดเล็กอย่าง PM2.5 ในตัว พร้อมป้องกันกลิ่นอับและช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้ อยู่ตรงไหนก็สามารถสั่งการได้ผ่านสมาร์ตโฟน รวมถึงควบคุมทิศทางลมได้ตามต้องการผ่านระบบตาอัจฉริยะ
✔️ ขนาด : 12,000 BTU
✔️ ค่า SEER : 19.16
✔️ ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 : 5 ดาว
✔️ ค่าไฟเฉลี่ยต่อปี : 6,035 บาท
ราคา : 32,990 บาท
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับแอร์ประหยัดไปรุ่นที่เรานำมาฝากกัน คงจะตอบคำถามที่ว่า ติดแอร์ยี่ห้อไหนดีได้ไม่มากก็น้อย เพราะรุ่นที่เรานำมาแนะนำเป็นรุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์อย่างมาก มีคุณภาพประสิทธิภาพเยี่ยม ทำงานเงียบ และประหยัดไฟด้วย คุ้มค่าน่าใช้งานมาก ๆ เลยครับ
การใช้แอร์ประหยัดไฟอย่างไรก็ควรหมั่นตรวจสอบแอร์หลังการใช้งานเป็นประจำด้วยว่ามีปัญหาอะไรบ้างหรือไม่ ถ้าพบปัญหาจะได้เรียกช่างมาแก้ไขให้เรียบร้อย และควรหมั่นทำความสะอาด เรียกช่างล้างแอร์มาล้าง เพื่อที่จะได้ยืดอายุการใช้งานให้นานยิ่งขึ้น และแอร์จะได้เย็นฉ่ำดังเดิมนั่นเองครับ
ขอบคุณข้อมูล และภาพจาก :
fujitsu-general.com, tcl.com, daikin.co.th, samsung.com และ mitsuheavythai.com