
ในบางครั้งการที่เราซื้อบ้านในโครงการต่างๆ เราไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าเราจะต้องไปเจอกับอะไรบ้าง โดยเฉพาะเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังติดกัน หรือหลังในละแวกเดียวกัน เพราะเราไม่สามารถรู้นิสัยใจคอของคนเหล่านั้นได้ ยิ่งกว่านั้นอาจจะเจอเพื่อนบ้านตัวแสบ ที่ชอบเสียงดังโหวกเหวกโวยวาย หรืออาจจะเป็นเพื่อนบ้านสายปาร์ตี้ที่ส่งเสียงดังเป็นประจำ พอไปพูดคุยตักเตือนก็ยังไม่หยุดพฤติกรรม
ถ้าถึงขนาดนี้ก็ควรจะให้เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นคนจัดการดีกว่า แต่ถึงขั้นนั้นเราจะต้องทราบในเรื่องของกฎหมายเบื้องต้นว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่เพื่อนบ้านไม่สามารถละเมิดสิทธิของเราได้ ดังนั้นวันนี้ Thaihometown จึงมาเสนอ 5 เรื่องที่เพื่อนบ้านไม่สามารถละเมิดสิทธิของเราได้ในทางกฏหมาย มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

เสียง
เชื่อว่าหลายคนคงจะเจอปัญหานี้กันเยอะพอสมควร และผมขอยกปัญหานี้ไว้เป็นปัญหาอันดับหนึ่งเลยก็แล้วกัน สำหรับปัญหาของเพื่อนบ้านที่ชอบส่งเสียงดัง โดยเฉพาะในยามวิกาลที่รบกวนเรา เป็นเหตุไม่ไม่ได้พักผ่อน และมีการกล่าวตักเตือนไปในขั้นต้นแล้ว แต่ยังไม่หยุดพฤติกรรม เราสามารถเอาผิดเพื่อนบ้านคนนี้ในทางกฎหมายได้ ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ที่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการจัดการ ป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษที่เกี่ยวกับเหตุรำคาญด้านพิษทางเสียง ตามมาตรา 25 ที่ระบุไว้ว่า "ในกรณีที่มีเหตุอันอาจก่อให้เกิดความเดือดร้อน แก่ผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง หรือผู้ที่ต้องประสบกับเหตุนั้น ดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าเป็นเหตุรำคาญ (4) การกระทำใด ๆ อันเป็นเหตุให้เกิดกลิ่น แสง รังสี เสียง ความร้อน สิ่งมีพิษ ความสั่นสะเทือนฝุ่น ละออง เขม่า เถ้า หรือกรณีอื่นใด จนเป็นเหตุให้เสื่อมหรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ"

วิวทิวทัศน์
จริงๆ แล้วเรื่องของวิวดูเหมือนจะไม่มีอะไร เพราะตามกฎหมายแล้ว คนเราไม่มีสิทธิในแสงแดด อากาศ และวิวทิวทัศน์ เพราะเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาเอง โดยไม่มีใครเป็นเจ้าของ แต่มันจะมีบางกรณีที่เพื่อนบ้านตัวแสบมักจะหัวหมอปลูกสิ่งก่อสร้างขึ้นมาโดยจงใจให้บดบังวิวทิวทัศน์ของเรา ในกรณีนี้เราสามารถเอาผิดเพื่อนบ้านในทางกฏหมายได้ โดยกฎหมายจะระบุห้ามปลูกต้นไม้สูงหรือสร้างสิ่งก่อสร้าง ซึ่งบังวิวของเพื่อนบ้านโดยเจตนา ในกรณีนี้กฎหมายจะคุ้มครองและห้สิทธิแก่เจ้าของบ้านที่ถูกบังวิวให้สามารถยื่นฟ้องร้องเพื่อรักษาสิทธิชมวิวของตนได้

สัตว์เลี้ยง
อีกหนึ่งปัญหาที่เพื่อนบ้านมักจะสร้างความลำบากใจให้กับเรา นั่นก็คือสัตว์เลี้ยงของพวกเขานั่นเอง เช่น สุนัขหรือแมว เข้ามาในละแวกบ้านแล้วสร้างความเดือดร้อนให้กับเราโดยกัดหรือทำลายสิ่งของ รวมถึงอุจระและคุ้ยขยะในพื้นที่บ้านของเราอันก่อให้เกิดความสกปรก กฏหมายระบุไว้ว่า ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำของสัตว์ดังกล่าว มีสิทธิเรียกร้องเอาค่าสินไหมทดแทนจากเจ้าของสัตว์นั้น หรือจากบุคคลผู้รับเลี้ยงรับรักษาไว้แทนเจ้าของ ทั้งนี้ ผู้ได้รับความเสียหายจะทำร้ายสัตว์หรือฆ่าสัตว์เพื่อเป็นการแก้แค้นไม่ได้ เพราะอาจมีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์และอาจถูกฟ้องร้องฐานละเมิดอีกด้วย

การจอดรถ
ปัญหานี้อาจจะไม่ใช่ปัญหาที่เกิดจากเพื่อนบ้านเพียงเท่านั้น แต่อาจจะเกิดจากบุคคลอื่นที่เข้ามาในละแวกบ้านและจอดรถขวางประตูทางเข้าบ้านของเรา กรณีนี้เราสามารถเอาผิดผู้ที่กระทำการดังกล่าวได้เช่นกัน โดยกฏหมายระบุไว้ว่า การจอดรถขวางประตูบ้านของผู้อื่น เป็นการกระทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญ เพราะไม่สามารถนำรถเข้าหรือออกจากบ้าน จะมาอ้างว่าถนนหน้าบ้านเป็นที่สาธารณะนั้นทำไม่ได้ เนื่องจากหากเจ้าของรถใช้สิทธิไปก่อความเดือดร้อนของผู้อื่นทั้งที่รู้แก่ใจถึงความเสียหาย จะถือว่า กระทำความผิดฐานก่อความเดือดร้อนรำคาญใจตามมาตรา 397 หมวดลหุโทษ ทั้งนี้เราก็ควรติดป้าย "ห้ามจอดรถขวางประตู" ไว้ที่หน้าบ้านด้วย แต่ถ้าหากบุคคลดังกล่าวมาจอดรถชั่วคราวและไม่ได้สร้างความเดือนร้อนให้กับเรา ตรงนี้เราก็ควรจะเห็นใจและให้เขาจอดน่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า

สิ่งปลูกสร้าง
ปัญหานี้มักจะไม่เกิดขึ้นเท่าไหร่ แต่ถ้าหากเกิดขึ้นแล้วจะควรจะเคลียกันให้เรียบร้อนก่อนที่จะเกิดปัญหาตามมาทีหลัง เช่นในกรณีที่เพื่อนบ้านสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำเข้ามาในเขตพื้นที่บ้านหรือที่ดินของเรา เราสามารถฟ้องให้เขารื้อถอนได้ตามกฎหมาย หรือแม้แต่รางน้ำฝนของเพื่อนบ้าน รุกล้ำเข้ามาในเขตบ้านของเรา เป็นเหตุให้น้ำฝนตกลงในพื้นที่บ้านของเราสร้างความเดือดต้อน ตามกฏหมายเราสามารถร้องเรียกค่าสินไหมทดแทนและฟ้องร้องให้มีการรื้อถอนได้เช่นกัน