
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้เราอาจจะไม่ได้มีเพื่อนบ้านเป็นคนไทยด้วยกันอีกต่อไปแล้ว เพราะการหลั่งไหลเข้ามาของชาวต่างชาติ ทั้งกลุ่มแรงงาน หรือแม้ไปยังกลุ่มมีศักยภาพทางวิชาชีพ ที่เข้ามาทำงานสาขาในประเทศไทย และมาลงทุนทำธุรกิจ รวมไปถึงชาวต่างชาติที่เลือกเมืองไทยเป็นสถานที่บั้นปลายชีวิตยามเกษียณ หรือเป็นบ้านพักตากอากาศเมื่อต้องหลบภัยหนาวมาจากประเทศบ้านเกิดด้วยปัจจัยต่างๆ ทั้งราคา และการเข้าถึงอสังหาฯ ในเมืองไทยของเราเปิดกว้าง และเปิดรับชาวต่างชาติอยู่พอสมควร จึงทำให้ประเทศไทยเป็นอีกจุดหมายที่เป็นที่สนใจ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร และหัวเมืองเศรษฐกิจต่างๆ
การอยู่อาศัยร่วมกันกับคนหลากหลายเชื้อชาตินั้น เราจึงจำเป็นต้องปรับตัว เรียนรู้เพื่อที่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข ยิ่งหากใครอยู่ในคอนโดมิเนียมหรือหมู่บ้านถือว่าเป็นข้อดี เพราะมีนิติบุคคลเป็นเสมือนตัวกลางทำหน้าที่คอยดูแลความเป็นอยู่พื้นที่ของเราให้อยู่แล้ว วันนี้ Thaihometonw มีเรื่องควรรู้กับการอยู่อาศัยร่วมกันกับชาวต่างชาติว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไร หรือเราสามารถเรียนรู้การอยู่ร่วมกันแบบ Multi-Culture ที่มีคนต่างชาติ ต่างภาษามาอยู่ในชุมชนเดียวกันนำไปใช้ประโยชน์กับเราในด้านใดได้บ้างมาฝากกันครับ

1. รู้จักรูปแบบพฤติกรรมการอยู่อาศัย
ชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในเมืองไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯนั้น มักจะเลือกอยู่ในทำเลที่มีคนชาติเดียวกันอาศัยอยู่ เช่น คนญี่ปุ่นชอบอาศัยอยู่ในโซนทองหล่อ คนจีน เกาหลีชอบอยู่แถว รัชดาภิเษก ห้วยขวาง ชาวยุโรป อเมริกันชอบอยู่แถว เพลินจิต ชิดลม ราชดำริ โดยแต่ละชาติก็มีรูปแบบพฤติกรรมการอยู่อาศัยที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป เช่น คนญี่ปุ่นเคารพในกฎระเบียบการอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างเคร่งครัด ชาวตะวันตกเน้นความเป็นส่วนตัว เคารพผู้อื่นและให้ความสำคัญกับการใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง ชาวจีนและชาวเกาหลีโดดเด่นเรื่องการสังสรรค์

2. ใช้โอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรม
การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่เป็นโอกาสที่ดีที่ช่วยให้เปิดโลกกว้าง หากเราเป็นคนชอบพูดคุยพบปะสังสรรค์ นี่ถือเป็นประโยชน์ที่เราสามารถหาได้จากที่บ้าน ไม่ต้องเดินทางไปที่ไหนไกล โดยเฉพาะกับชาวต่างชาติทางตะวันตกที่มักจะมีบุคคลิกประเภท Extrovert คือ open ไม่เก็บตัว ยินดีพูดคุยกับเราเสมอ และชาวต่างชาติมักจะชอบเข้าร่วมกิจกรรมทุกเทศกาลที่ทางฝ่ายจัดการฯ จัดให้เข้าร่วม ส่วนชาวญี่ปุ่น ชอบเรียนรู้วัฒนธรรมไทย ชอบฝึกภาษาไทย เราสามารถใช้โอกาสนี้ฝึกภาษา แลกเปลี่ยนทัศนะคติ ความคิด วัฒนธรรมต่างบ้านต่างเมืองได้ หรือหากใครที่มีลูกก็สามารถฝึกการเข้าสังคมนานาชาติได้เลย

3. เคารพกฎกติกาการอยู่ร่วมกัน
การอยู่อาศัยร่วมกันกับคนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นคนชาติเดียวกัน หรือคนต่างชาติควรต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ และเคารพซึ่งกันและกัน ภาษาและการสื่อสารจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ นิติบุคคลที่บริหารจัดการได้ดีควรมีมาตรฐานในการดูแลความเป็นอยู่อย่างเท่าเทียม ป้ายประกาศ กฎข้อห้ามต่างๆ ควรทำเป็นฉบับสองภาษา หรือภาษาเฉพาะประจำชาตินั้นๆ ในกรณีที่มีผู้อาศัยเป็นส่วนใหญ่ พนักงานผู้ให้บริการก็ควรสื่อสารพูดคุยทำความเข้าใจ อธิบายกฎการอยู่อาศัยให้ชัดเจน สิ่งไหนทำได้สิ่งไหนไม่ควรทำ และเปิดกว้างการบริการไม่จำกัดเฉพาะชาติใดชาติหนึ่งนั้น หากแต่ในบางครั้งที่ชาวต่างชาติอาจไม่เข้าใจวัฒนธรรมบางอย่าง เราในฐานะเจ้าบ้านก็ควรช่วยอธิบายให้เข้าใจเพื่อการอยู่อาศัยร่วมกันได้อย่างมีความสุข
ทั้งนี้แม้ว่าชาวต่างชาติจะเข้ามาอยู่อาศัยร่วมกันกับเรามากขึ้นเรื่อยๆ หากเราปิดกั้น ไม่เปิดรับความแตกต่าง ก็จะทำให้เราอยู่อาศัยด้วยความไม่สบายใจ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือการเรียนรู้และเข้าใจในความต่างของแต่ละวัฒนธรรม ปรับเปลี่ยนวิธีคิดที่จะไม่เปิดรับให้เป็นโอกาสที่เราจะได้สร้างความสัมพันธ์ เพื่อจะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขครับ


