
มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ
ร่วมสู้ภัยโควิด-19 ไปด้วยกัน ธนาคารกรุงเทพ ห่วงใยความเดือดร้อนของลูกค้า ช่วยแบ่งเบาภาระลูกค้าสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อธุรกิจ เอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19

บัตรเครดิต
- ปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำมาอยู่ที่ 5% (จากเดิม 10%) จนถึง 31 ธ.ค. 64 สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพทุกประเภท และทุกรายได้รับสิทธิ์อัตโนมัติ โดยไม่ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิ์
- ปรับลดเพดานดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 16% ต่อปี (จากเดิม 18% ต่อปี) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 63 สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพทุกประเภท และทุกรายได้รับสิทธิ์อัตโนมัติ โดยไม่ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิ์
- ขยายวงเงินให้แก่ลูกค้าที่มีความจำเป็นและมีประวัติการชำระหนี้ที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับลูกค้าที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่ำกว่า 30,000 บาท จาก 1.5 เท่า เป็น 2 เท่า เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 63 จนถึง 31 ธ.ค. 64 (เข้าร่วมโครงการ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 2638 4000 หรืออีเมล: card.srv@bangkokbank.com)

สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ
ประเภทสินเชื่อเงินกู้ที่มีลักษณะหมุนเวียน (Revolving Loan)
- ลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำ ตามความสามารถในการชำระหนี้
- เปลี่ยนเป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลา (term loan) 48 งวด หรือขยายระยะเวลาตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า โดยคิดดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี ทั้งนี้จะพิจารณาให้ใช้วงเงินที่เหลือตามความสามารถในการชำระหนี้ แต่เมื่อรวมกับยอดคงเหลือของสินเชื่อเดิมต้องไม่เกินกว่าวงเงินที่ได้รับการอนุมัติ
ประเภทสินเชื่อเงินกู้ที่ผ่อนชำระเป็นงวด (Installment Loan)
- ลดค่างวดอย่างน้อย 30% โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี
ลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ได้ทางเว็บไซต์ หรือติดต่อสาขา ตั้งแต่ 1 ก.ค. 63 - 30 มิ.ย. 64
คลิกลงทะเบียน

สินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่ออเนกประสงค์ที่ใช้ที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน
- เลื่อนชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) เป็นระยะเวลา 3 เดือน หรือ
- เลื่อนชำระเงินต้น (จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย) เป็นระยะเวลา 3 เดือน และพิจารณาลดดอกเบี้ยให้ลูกค้าแต่ละรายตามความเหมาะสม หรือ
- ลดค่างวดโดยขยายเวลาการชำระหนี้
ลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ได้ทางเว็บไซต์ หรือติดต่อสาขา ตั้งแต่ 1 ก.ค. 63 - 30 มิ.ย. 64
คลิกลงทะเบียน

การปรับโครงสร้างหนี้ ด้วยการรวมหนี้
การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ด้วยการรวมหนี้ (Debt Consolidation) เพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 สงครามการค้า หรือภัยธรรมชาติ
คุณสมบัติของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ
- มีสินเชื่อที่อยู่อาศัย บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับ กับธนาคารกรุงเทพ
- สินเชื่อที่อยู่อาศัย มีสถานะผ่อนชำระต้องไม่เป็น NPL ณ วันที่ 1 มี.ค. 63
ระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ
ตั้งแต่ 1 ก.ย. 63 – 31 ธ.ค. 64
ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ ในการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และระเบียบปฏิบัติของธนาคาร
คลิกลงทะเบียน
สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี

มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ของธนาคารแห่งประเทศไทย
วัตถุประสงค์
เพื่อเสริมสภาพคล่องสำหรับประกอบธุรกิจ ลดผลกระทบต่อการจ้างงาน
วงเงินโครงการ
วงเงินโครงการรวม 500,000 ล้านบาท
คุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อ
- เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย ที่มีสถานประกอบการและประกอบธุรกิจในประเทศไทย
- มีวงเงินสินเชื่อรวมทั้งกลุ่มธุรกิจของลูกหนี้ที่มีกับธนาคาร ไม่เกิน 500 ล้านบาท ณ. 31 ธ.ค. 62
- ไม่เป็นหนี้ NPL ณ. 31 ธ.ค. 62
- ไม่เป็นบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เว้นแต่เป็นบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI
- ไม่เป็นผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน หรืออยู่ในประเภทองค์กรที่ ธปท. กำหนดว่าไม่สามารถยื่นขอกู้ Soft Loan ของธปท.
ประเภทสินเชื่อ
เงินกู้, ตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) หรือสินเชื่อธุรกิจประเภทอื่น ตามความเหมาะสม
วงเงินสินเชื่อ
กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 20 ของยอดหนี้คงค้าง ของลูกหนี้แต่ละรายที่มีกับธนาคาร ณ. 31 ธ.ค.62 โดยให้เป็นวงเงินสินเชื่อใหม่
อัตราดอกเบี้ย
2.0% ต่อปี ระยะเวลา 2 ปี โดย 6 เดือนแรก รัฐบาลเป็นผู้ชำระแทนลูกหนี้ อัตราดอกเบี้ยหลังครบกำหนดระยะเวลา 2 ปี พิจารณาตามความเหมาะสมของลูกหนี้แต่ละราย (กรณีกู้เกินกว่า 2 ปี)
ค่าธรรเเนียม
ยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ จากลูกหนี้ รวมถึงค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนจำนองอสังหาริมทรัพย์ และอาคารชุด และการจดทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ ทั้งนี้ ไม่รวมถึงค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้กับบุคคลภายนอก
หลักประกัน
ขึ้นอยู่กับการพิจารณา
ระยะเวลายื่นคำขอ
ระยะเวลายื่นขอสินเชื่อภายใต้โครงการสิ้นสุด 18 เม.ย. 64 หรือจนกว่าวงเงินตามมาตรการจะหมดลง
เงื่อนไขการใช้สินเชื่อ
- ระยะเวลาเบิกใช้สินเชื่อ ให้เบิกใช้วงเงินครั้งเดียว หรือ ทยอยเบิกใช้วงเงินตามความเหมาะสม
- ต้องไม่นำสินเชื่อตามโครงการนี้ไปชำระสินเชื่อเดิม ทั้งที่มีอยู่กับธนาคาร และ/หรือสถาบันการเงินอื่น
อัตราดอกเบี้ยผิดนัด
ไม่คิดดอกเบี้ยผิดนัด / เบี้ยปรับในช่วง 2 ปี ตามมาตรการนี้
การพิจารณาสินเชื่อ
เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ธนาคาร และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ช่องทางติดต่อสอบถามและยื่นคำขอ
สำนักธุรกิจธนาคารกรุงเทพ ทุกแห่ง
มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย

วัตถุประสงค์
เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับเสริมสภาพคล่อง และลงทุนให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
วงเงินโครงการ
10,000 ล้านบาท
คุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อ
- เป็นบุคคลธรรมดาซึ่งมีสัญชาติไทย หรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย ที่มีบุคคลสัญชาติไทยถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียน
- ประกอบธุรกิจในภาคการผลิต การบริการ และการพาณิชย์ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และ Supply Chain และได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid19) ทั้งทางตรง และทางอ้อม
ประเภทสินเชื่อ
เงินกู้ และตั๋วสัญญาใช้เงิน (ชำระดอกเบี้ยรายเดือน)
วงเงินสินเชื่อ
กู้ได้ไม่เกิน 100 ล้านบาท (รวมทุกสถาบันการเงิน) โดยนับวงเงินสินเชื่อภายใต้มาตรการนี้ รวมถึงเคย / ได้รับการอนุมัติวงเงินสินเชื่อในมาตรการ / โครงการ ดังต่อไปนี้
- มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรง และทางอ้อมจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) วงเงิน 55,000 ล้านบาท
- มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรง และทางอ้อมจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) วงเงิน 10,000 ล้านบาท
- โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) สำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) วงเงิน 15,000 ล้านบาท ของธนาคารออมสิน
อัตราดอกเบี้ย
2.0% ต่อปี คงที่ตลอดระยะเวลา 2 ปี หลังจากนั้นคิดดอกเบี้ยตามอัตราปกติของธนาคาร
ค่าธรรมเนียม
เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
หลักประกัน
เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
ระยะเวลายื่นคำขอ
ระยะเวลายื่นขอสินเชื่อกับธนาคารภายใน 30 มิ.ย. 64 หรือวันที่วงเงินตามมาตรการหมดลง แล้วแต่ระยะเวลาใดจะถึงกำหนดก่อน
เงื่อนไขการใช้สินเชื่อ
ต้องไม่นำสินเชื่อตามโครงการนี้ไปชำระสินเชื่อเดิม ทั้งที่มีอยู่กับธนาคาร และ/หรือสถาบันการเงินอื่น
อัตราดอกเบี้ยผิดนัด
กรณีลูกค้าผิดนัดไม่ชำระหนี้ให้แก่ธนาคาร หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด ธนาคารจะพิจารณาให้ลูกค้าออกจากโครงการ และคิดดอกเบี้ยสูงสุดกรณีผิดนัดชำระหนี้ที่ธนาคารประกาศใช้เป็นการทั่วไปในขณะนั้น
การพิจารณาสินเชื่อ
เป็นไปตามเกณฑ์และเงื่อนไขที่ธนาคาร และธนาคารออมสินกำหนด ทั้งนี้ ธนาคารออมสินจะพิจารณาเงินกู้ให้สถาบันการเงินตามลำดับการแจ้งรายชื่อลูกค้าซึ่งได้จัดทำสัญญาสินเชื่อแล้ว หรือตามลำดับการขอเบิกเงินกู้ (first-come, first-serve)
ช่องทางติดต่อสอบถามและยื่นคำขอ
สำนักธุรกิจธนาคารกรุงเทพ ทุกแห่ง
ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ตามมาตรการ ในการพิจารณาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ตามคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ที่กำหนด