
เพื่อนๆหลายคนคงอยากมีบ้านหลังแรกเป็นของขวัญปีใหม่กันแน่เลยใช่ไหมครับ แต่เงินเก็บยังมีไม่เยอะเลย คงต้องขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านเป็นทางออกแล้วหละ ผมจะแนะนำขั้นตอนการขอสินเชื่อกู้บ้านที่รับรองว่าทำตามคำแนะนำนี้กู้ผ่านแน่นอนครับ… ลองติดตามดูครับ …
1. ขั้นตอนที่หนึ่ง ประมาณการกู้เบื้องต้นว่าเราสามารถผ่อนบ้านที่ระดับราคาเท่าใดได้บ้าง
ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสำคัญที่เราจะประเมินเงินเดือนและรายรับของเรา ว่าสามารถผ่อนบ้านที่ระดับราคาไหนได้บ้าง ตัวอย่างเช่น ถ้าเรามีเงินเดือน 30,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 6 % ต่อปี ระยะเวลากู้ 30 ปี เราจะสามารถกู้เงินได้ประมาณ 2,001,499 บาท โดยโปรแกรมการคำนวณประเมินการกู้นี้สามารถหาได้จากตามเว็บต่างๆได้ไม่ยากครับ เช่น ของธนาคารกรุงศรีอยุธยาก็จะมีโปรแกรมคำนวณตามเว็บนี้ครับ https://www.krungsri.com/th/calculator-borrowing-power.aspx?cid=1&did=1&menuid=4 ซึ่งเมื่อเรารู้ระดับความสามารถว่าเราสามารถกู้ได้เท่าไหร่ เราก็สามารถเลือกซื้อบ้านที่อยู่ในระดับราคาที่เราสามารถกู้ได้ จะทำให้มีความมั่นใจเวลาที่เรายื่นจะขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะกู้ได้ผ่านครับ
2. ขั้นตอนที่สอง การหาสินเชื่อและการขออนุมัติสินเชื่อล่วงหน้า (Pre-approval)
การอนุมัติสินเชื่อล่วงหน้านั้นเป็นการที่ธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ จะให้สินเชื่อจากการพิจารณาเครดิตโดยไม่คำนึงถึงหลักประกัน แต่ยังคงสงวนสิทธิ์ในการอนุมัติวงเงินจริง หากข้อมูลที่เพื่อนๆ ให้ในตอนแรกครบถ้วนและถูกต้อง ประกอบกับบ้านที่เพื่อนๆ เลือกซื้ออยู่ในวงเงินที่ได้รับการอนุมัติล่วงหน้าจากการประเมินเบื้องต้นตามขั้นตอนแรกการอนุมัติในขั้นตอนสุดท้ายจะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ในการอนุมัติล่วงหน้านั้น ธนาคารและสถาบันการเงินจะบอกให้เราทราบถึง วงเงินสูงสุด ระยะเวลาและค่างวดผ่อนชำระโดยประมาณที่เราสามารถกู้ได้ ซึ่งข้อมูลต่างๆนี้จะทำให้การซื้อบ้านของเพื่อนๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ
3. ขั้นตอนที่สาม การเลือกสถาบันการเงิน
สถาบันการเงินที่จะให้เพื่อนๆ กู้เพื่อซื้อบ้านมีจำนวนมาก ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารทหารไทย เป็นต้น ซึ่งสถาบันการเงินเหล่านี้ ต่างก็แข่งขันกันในการปล่อยสินเชื่อให้แก่ประชาชน ประเด็นทีสำคัญคือ เพื่อนๆ ควรจะรู้ว่ากู้ที่ไหนดี ที่จะช่วยให้เกิดการประหยัดเงินมากที่สุด และมีเงื่อนไขที่สอดคล้องกับความต้องการของเรามากที่สุด ดังนั้นเพื่อนๆ จึงจำเป็นต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เงื่อนไขการกู้ และค่าใช้จ่ายต่างๆที่อาจเกิดขึ้น จากนั้น จึงเลือกสถาบันการเงินที่ให้ประโยชน์มากที่สุด และเมื่อเราติดต่อขอข้อมูลจากสถาบันการเงินเหล่านี้ โดยอาจพิจารณาจากการเข้าดู web site ของสถาบันการเงิน จากเอกสารโบรชัวร์ จากการการโทรศัพท์สอบถาม หรือดูจากสื่อต่างๆ เช่น หนังสือนิตยสารเกี่ยวกับการ
ซื้อบ้าน ตัวอย่างรายละเอียดข้อมูลอัตราดอกเบี้ยจาก website ของธนาคารกรุงศรีอยุธยาให้ข้อมูลค่อนข้างครบถ้วนเลยครับ เพื่อนๆสามารถลองเข้าไปดูได้จากเว็บนี้ครับ https://www.krungsri.com/th/consumer-detail.aspx?did=76&tid=2&sub=true

4. ขั้นตอนสุดท้าย การยื่นกู้จริง
หลังจากที่เพื่อนๆ ทำตามขั้นตอนต่างๆ ข้างต้นครบถ้วน ทั้งประมาณการกู้เบื้องต้น หาสินเชื่อและขออนุมัติสินเชื่อล่วงหน้า (Pre-approval) และพิจารณาเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย เงื่อนไขการให้กู้ และการให้บริการต่างๆของธนาคารต่างๆ แล้ว เพื่อนๆ ก็จะสามารถเลือกกู้กับธนาคารที่เราพึงพอใจสูงสุด จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนสำคัญคือ การยื่นกู้จริงกับธนาคารที่เราได้เลือกไว้ ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
การเตรียมหลักฐานประกอบคำขอกู้ ในการกู้เงินเพื่อซื้อบ้าน หรืออาคารชุด สถาบันการเงินมักจะกำหนดให้ผู้ขอกู้ จะต้องนำหลักฐานต่างๆ ต่อไปนี้โดยครบถ้วน ได้แก่

1. หลักฐานประจำตัว ได้แก่
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- บัตรประจำตัว
- สำเนาเปลี่ยนชื่อ สกุล (ถ้ามี)
- ทะเบียนสมรส หรือทะเบียนหย่า หรือใบมรณะบัตร

2. หลักฐานเกี่ยวกับรายได้ ได้แก่
กรณีผู้มีรายได้ประจำ
- สลิปเงินเดือน หรือ หนังสือรับรองการทำงาน (ตัวจริง)
- สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
- สำเนาหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
กรณีบุคคลธรรมดาที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียน / ใบทะเบียนการค้า
- สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีชื่อผู้กู้ / ผู้กู้ร่วม
- สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (ทั้งในนามบุคคลและกิจการ)
- สำเนา ภ.พ.30 (ถ้ามี)
3. หลักฐานเกี่ยวกับหลักทรัพย์และการซื้อขาย
- สำเนาโฉนดที่ดิน หรือสำเนาหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด
- แผนที่แสดงทำเลที่ตั้งของที่ดินหลักประกัน
- สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย หรือสัญญามัดจำ
- ถ้าเป็นการซื้อห้องชุด ต้องมีสำเนาหนังสือสำคัญการจดทะเบียนอาคารชุด
- รายละเอียดทรัพย์ส่วนบุคคล และทรัพย์ส่วนกลาง

4. หลักฐานอื่นๆ
กรณีขอกู้เพื่อการปลูกสร้างหรือต่อเติมอาคาร ต้องมี
- แบบก่อสร้างอาคาร
- หนังสืออนุญาตปลูกสร้างหรือต่อเติมอาคาร
- หนังสือสัญญาจ้างปลูกสร้างหรือต่อเติมอาคาร
กรณีกู้เพื่อไถ่ถอนจำนอง ต้องมี
- สัญญากู้เงิน และสัญญาจำนองจากสถาบันการเงินเดิม
- statement การผ่อนชำระค่างวด ใน 6 เดือนสุดท้าย
หลังจากเมื่อเราเมื่อยื่นกู้แล้ว ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะส่งเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินราคาบ้านและที่ดิน ที่จะนำมาจำนองเป็นหลักประกันโดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 2-7 วัน ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารและสถาบันการเงิน ธนาคารและสถาบันการเงินจะพิจารณาคำขอกู้โดยจะทำการวิเคราะห์รายได้ ฐานะทางการเงิน ความสามารถในการผ่อนชำระ และหลักประกันของเพื่อนๆ รวมทั้งปัจจัยอื่น ๆ และจะแจ้งผลการขอกู้ให้เราทราบ โดยปกติทั่วไปใช้เวลาประมาณ 1-3 สัปดาห์ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารและสถาบันการเงิน ซึ่งถ้าเพื่อนๆ ได้ทำตามขั้นตอนที่ได้แนะนำไปอย่างครบถ้วน ก็จะมั่นใจได้ในระดับหนึ่งเลยว่ามีโอกาสกู้ผ่านแน่นอนครับ
ขอให้ทุกท่านได้บ้านหลังแรก และมีความสุขกับบ้านของเรานะครับ