
การขอสินเชื่อบ้านแลกเงิน ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยเอาโฉนดที่ดินไปวางไว้เป็นประกันกับสถาบันการเงิน แต่เจ้าของบ้านก็ยังสามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้ตามปกติ และเมื่อสิ้นสุดการผ่อนชำระแล้วสามารถไถ่ถอนโฉนดออกมาจากธนาคารได้ ส่วนคุณสมบัติผู้กู้หรือขั้นตอนต่างๆ เหมือนกับการขอสินเชื่อเพื่อการมีบ้านทุกประการ โดยอัตราดอกเบี้ยของธนาคารต่างๆ จะแตกต่างกันไป แต่ส่วนมากจะอยู่ที่ 7 – 12.0% ภายใต้เงื่อนไขที่ธนาคารนั้นกำหนด
สามารถศึกษารายละเอียดได้ ดังนี้ แปลง "บ้าน" เป็น “ทุน” เมื่อถึงวัยเกษียณ โดยทั่วไปแล้วธนาคารจะปล่อยกู้สินเชื่อเพื่ออยู่อาศัยสำหรับผู้มีอายุ 25 ถึง 60 ปี หรือสามารถกู้ได้นานที่สุดเป็นระยะเวลา 30 ปี
ดังนั้น ช่วงอายุที่สิ้นสุดการกู้จะอยู่ช่วงประมาณ 55-60 ปี ช่วงนี้เป็นช่วงที่หลายๆ คนเริ่มตัดสินใจเกษียณ และหลายๆ คนยังขาดความพร้อมสำหรับวัยเกษียณ ธนาคารจึงไม่ให้เกินช่วงอายุดังกล่าว เพระาจะทำให้เกิดความเสี่ยงในการชำระหนี้จากผู้กู้ และเป็นเหตุในธนาคารต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มในการติดตามทวงหนี้ตามกฏหมาย นั้นเอง

ความแตกต่างระหว่างสินเชื่อบ้านแลกเงิน กับสินเชื่อเพื่อการซื้อบ้าน
ผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางทีก็มีชื่อเรียกที่คล้ายๆ กัน แถมยังเป็นชื่อยากๆ ที่อาจทำให้สับสนได้ว่ามันคืออะไร ช่วยอะไรได้ ซึ่งหนึ่งในเรื่องปวดหัวที่คนอยากมีเงินก้อนต้องเจอก็คือ สินเชื่อบ้าน (Home Loan) กับ สินเชื่อบ้านแลกเงิน (Home for Cash) ซึ่งไม่รู้ว่ามันคือตัวเดียวกัน หรือต่างกันยังไง ทำให้หลายๆ ครั้งอาจจะต้องเสียโอกาสเมื่อไปติดต่อกับธนาคาร หรืออาจทำให้เสียเวลาเพราะศึกษาข้อมูลมาผิดๆ ได้ วันนี้ Refinn จะพาไปดูความแตกต่างของสินเชื่อทั้ง 2 ตัวนี้กัน
สินเชื่อบ้านแลกเงิน คืออะไร
สินเชื่อบ้านแลกเงินคือ สินเชื่อที่ใช้เพื่อให้เข้าถึงเงินก้อนจำนวนมหาศาล เอาไปใช้หมุนเวียนเป็นทุนทำธุรกิจต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ โดยเอาบ้านหรือที่อยู่อาศัย เช่น คอนโด อพาร์ทเมนท์ของเราเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
สินเชื่อบ้าน คืออะไร
เป็นสินเชื่อที่เอาไว้ขอเพื่อให้เราได้ที่อยู่อาศัยมา เหมือนเป็นการขอยืมเงินธนาคารมาซื้อบ้านหลังที่เราต้องการก่อน แล้วค่อยทยอยใช้คืนธนาคารแบบผ่อนจ่ายระยะยาวทีหลัง
ทีนี้ก็คงเข้าใจความต่างของทั้ง 2 สินเชื่อนี้แล้ว อย่าลืมนะว่าถ้าต้องการเงินก้อน ต้องสินเชื่อบ้านแลกเงินเท่านั้นที่ช่วยได้ แต่ก่อนจะมุ่งไปธนาคารเพื่อทำการขอสินเชื่อ สิ่งสำคัญคือต้องเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยแต่ละธนาคาร ซะก่อน จะได้ได้ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านแลกเงิน (Home for Cash) ที่ถูกที่สุด โปรโมชั่นดีที่สุด คุ้มค่ากับการกู้มากที่สุด
สินเชื่อบ้านแลกเงิน มีข้อดีกว่าสินเชื่อบ้านทั่วไป
สินเชื่อบ้านใช้เวลาอนุมัตินาน เพราะต้องใช้เจ้าหน้าที่ออกไปประเมินมูลค่าบ้านที่ใช้เป็นหลักประกัน ทำให้ระยะเวลาอนุมัติอาจจะนานมากกว่า 1 สัปดาห์ได้ และจะมีวงเงินกู้ขั้นต่ำคือ 500,000 บาท ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับ ผู้ขอกู้ที่ต้องการกู้เงินด่วน และยอดเงินกู้ไม่มาก อาจจะต้องกู้ สินเชื่อส่วนบุคคล หรือ สินเชื่อรถแลกเงิน แทนจะเหมาะสมกว่า

หลักประกันการกู้เงิน โดยใช้บ้านเป็นหลักประกัน
โดยจะใช้ได้ทั้งบ้านเดี่ยว/ทาวน์โฮม/คอนโด/ตึกแถว เป็นหลักประกัน ซึ่งบ้านแลกเงินมีข้อดีหลักๆอยู่ 3 อย่างด้วยกันคือ
1. วงเงินกู้สูงที่สุด เมื่อเทียบกับสินเชื่อประเภทอื่นๆ เพราะว่าการใช้บ้านเป็นหลักประกันและบ้านมักจะมีมูลค่าสูง ทำให้ธนาคารสามารถอนุมัติวงเงินกู้ได้สูงตามไปด้วย ซึ่งอาจจะมียอดอนุมัติวงเงินกู้ได้สูงสุดที่ 95% ของมูลค่าหลักประกัน
2. ดอกเบี้ยต่ำสุด อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านแลกเงินจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อประเภทอื่นๆอีกด้วย เพราะความเสี่ยงที่ต่ำกว่าจากหลักประกันที่มีมูลค่าและไม่มีความเสี่ยงในการสูญหาย (ไม่เหมือนรถ) ทำให้สถาบันการเงินคิดดอกเบี้ยที่ต่ำตามไปด้วย ซึ่งในปัจจุบันสินเชื่อบ้านแลกเงินจะมีอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 6% ต่อปี และเป็นดออกเบี้ยประเภทลดต้นลดดอก
3. เลือกผ่อนได้ยาว การเลือกจำนวนงวดผ่อนที่ยาวทำให้ ยอดผ่อนขั้นต่ำต่อเดือลดลงและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายหรือสภาพคล่องเราได้ง่ายๆ ซึ่งสินเชื่อบ้านแลกเงินจะสามารถเลือกระยะเวลาผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 30 ปี และผู้ขอกู้ยังสามารถเลือกโปะหรือง่ายเงินต้นเพิ่มได้ เมื่อเรามีรายได้เพิ่มหรือสภาพคล่องเหลือในแต่ละเดือน เพื่อช่วยลดเงินต้นและภาระดอกเบี้ยในงวดถัดๆไป
4. โปะเงินต้นได้ง่ายๆ สินเชื่อบ้านแลกเงินผู้ขอกู้ยังสามารถเลือกโปะหรือง่ายเงินต้นเพิ่มได้ เมื่อเรามีรายได้เพิ่มหรือสภาพคล่องเหลือในแต่ละเดือน เพื่อช่วยลดเงินต้นและภาระดอกเบี้ยในงวดถัดๆไป ทำให้ผู้ขอกู้ปลดหนี้ได้เร็วขึ้น (แต่ห้ามปิดบัญชีก่อน 3 ปีแรกที่จะมีค่าปรับจากธนาคาร)
รายละเอียดสินเชื่อบ้านแลกเงิน
ดอกเบี้ย
- อัตราดอกเบี้ยพิเศษ เดือน 1-24 MRR-1.00%
- อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ปีที่ 3 จนครบสัญญา MRR-0.50%
กู้เบิกเงินเกินบัญชี MRR+1.00% ต่อปี
- กู้เบิกเงินเกินบัญชี MRR + 1.00% ต่อปี
ระยะเวลาผ่อน
- เงินกู้ (Loan) สูงสุดไม่เกิน 30 ปี
(อายุของผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาการผ่อนชำระแล้วต้องไม่เกิน 70 ปี)
- วงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี (O/D) ต่ออายุวงเงินปีต่อปี
ค่าธรรมเนียม / ค่าใช้จ่าย
- ฟรี.. ค่าประเมินราคาหลักประกันรายย่อย 3,000 บาท ต่อราย
(จำกัด 500 รายแรกที่จดจำนองหลักประกันกับธนาคาร)
- เฉพาะลูกค้าที่เปิดบัญชีวงเงินสินเชื่อบ้านช่วยได้กสิกรไทยตั้งแต่ 500,000 บาท ขึ้นไป
- ลูกค้าต้องทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อบ้าน โดยมีทุนประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อบ้านตั้งแต่ 70% ขึ้นไปของวงเงินสินเชื่อบ้านและเลือกระยะเวลาคุ้มครองเต็มระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ หรือมีทุนประกันคุ้มครองเต็มวงเงินสินเชื่อบ้านและเลือกระยะเวลาคุ้มครองไม่น้อยกว่า 70% ของระยะเวลาชำระคืนเงินกู้
- 16 ตุลาคม 2561 – 31 มีนาคม 2562 และจดจำนองหลักประกันภายใน 30 เมษายน 2562
วงเงินสินเชื่อบ้านแลกเงิน
เงินกู้หรือวงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี หรือวงเงินสินเชื่อทั้งสองประเภทรวมกัน สูงสุดไม่เกิน 90% ของราคาประเมินหลักประกัน โดยกำหนดวงเงินสินเชื่อขั้นต่ำ 100,000 บาท
วงเงินสินเชื่อสูงสุด 10,000,000 บาท
วงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีสูงสุดไม่เกิน 5,000,000 บาท
วงเงินสินเชื่อทั้งสองประเภท รวมกันไม่เกิน 10,000,000 บาท
(วงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีสูงสุดไม่เกิน 5,000,000 บาท)

รายละเอียดการสมัคร
คุณสมบัติ
สัญชาติ : ไทย
อายุ : 20 ปีขึ้นไป
รายได้ : ผู้กู้หลักต้องมีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาท ต่อเดือนขึ้นไป
อายุงาน :
- กรณีผู้กู้มีรายได้ประจำ จะต้องมีอายุงานไม่น้อยกว่า 1 ปี ทั้งนี้ อายุงานสามารถรวมที่ทำงานเก่าได้ โดยต้องผ่านการทดลองงาน ณ ที่ทำงานปัจจุบัน หรืออายุงาน ณ สถานที่ทำงานปัจจุบันจะต้องไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- กรณีเป็นผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว ต้องประกอบธุรกิจปัจจุบันมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
อื่น ๆ :
- มีผู้กู้ร่วมได้ไม่เกิน 3 คน และต้องเป็นเครือญาติตามกฎหมาย (ยกเว้นคู่สมรสไม่จดทะเบียน)
เอกสารทั่วไป
- แบบฟอร์มใบสมัครสินเชื่อ และหนังสือให้ความยินยอม ที่ผู้กู้และผู้กู้ร่วมกรอกรายละเอียดครบถ้วน
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรข้าราชการ / รัฐวิสาหกิจ (ทั้งผู้กู้และคู่สมรสของผู้กู้หลัก / ร่วม)
- สำเนาทะเบียนบ้าน (ทุกหน้า)
- กรณีสมรสจดทะเบียน - สำเนาทะเบียนสมรส
- กรณีสมรสไม่จดทะเบียน - หนังสือยืนยันสถานภาพสมรสจากลูกค้า หรือสำเนาทะเบียนบ้าน / สูติบัตรของบุตร
- กรณีหม้าย - ใบสำคัญการหย่า หรือใบแจ้งความเลิกร้างกับคู่สมรส หรือใบมรณะบัตรสำเนาใบเปลี่ยนชื่อ / นามสกุล (ถ้าเปลี่ยน)
- ใบเปลี่ยนชื่อ-ชื่อสกุล (ถ้ามี ทั้งผู้กู้และคู่สมรสของผู้กู้หลัก / ร่วม)
เอกสารการเงิน
⇒ ผู้มีรายได้ประจำ
- สลิปเงินเดือนล่าสุด 1 เดือน หรือ หนังสือรับรองเงินเดือน (อายุไม่เกิน 3 เดือน) / สลิปโบนัส
- เอกสารแสดงการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลัง
⇒ ข้าราชการบำนาญ
- ใบแนบหนังสือสั่งจ่าย และ เอกสารแสดงการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลัง
ถ้าผู้สมัครมีรายได้ไม่สม่ำเสมออื่น ๆ กรุณาแนบเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้
- เอกสารรายการเดินบัญชีย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน หรือ 50 ทวิ แสดงรายได้ในช่วง 6 เดือนย้อนหลังเป็นอย่างน้อย
⇒ ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว หรือ ผู้ที่อ้างอิงรายได้จากกิจการ
- เอกสารรายการเดินบัญชีย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือนในนามส่วนบุคคลหรือกิจการ
- เอกสารแสดงรายรับทางการเงินอื่น ๆ
⇒ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ
- เอกสารรายการเดินบัญชีย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือนหรือ 50 ทวิ แสดงรายได้ในช่วง 6 เดือนย้อนหลังเป็นอย่างน้อย
- เอกสารแสดงรายรับทางการเงินอื่น ๆ
เอกสารหลักทรัพย์
⇒ สำเนาโฉนดที่ดิน / นส.3 / นส.3ก หรือหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ พร้อมสารบัญจดทะเบียนทุกหน้า
⇒ สำเนาหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดิน (ทด.13)

ปัจจุบันสถาบันการเงินหลายแห่งได้ออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อประเภท “บ้านแลกเงิน” หรือ “Home For Cash” ซึ่งเป็นสินเชื่ออเนกประสงค์ ที่ผู้กู้สามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้ โดยสินเชื่อบ้านแลกเงิน จัดเป็นสินเชื่อประเภทหนึ่งที่ต้องใช้หลักประกัน กล่าวคือ
ผู้กู้ต้องนำ “ที่อยู่อาศัย” ที่ปลอดภาระหนี้หรือ ภาระจำนอง มาเป็นหลักประกันเพื่อขอสินเชื่อ
ขั้นตอนการขอสินเชื่อบ้านแลกเงิน
1. เตรียมเอกสารให้พร้อม
นอกจากเอกสารส่วนตัว และเอกสารทางการเงินที่คุณต้องเตรียมแล้ว อีกหนึ่งเอกสารที่คุณต้องเตรียมยังมีเอกสารเกี่ยวกับ “ที่อยู่อาศัย” ที่จะใช้เป็นหลักประกันด้วย ทั้งนี้ ธนาคารแต่ละแห่งอาจเรียกให้ผู้กู้แสดงเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย ดังนั้น แนะนำว่าให้สอบถามจากทางธนาคารให้ชัดเจนก่อนยื่นกู้จะดีที่สุด
2. ยื่นเรื่องขอสินเชื่อและประเมินราคาหลักทรัพย์
เมื่อเราได้ส่งเอกสารยื่นกู้พร้อมหลักฐานให้แก่ธนาคารแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ประเมินราคาหลักทรัพย์ติดต่อกลับมา เพื่อขอเข้ามาถ่ายรูปและสำรวจที่อยู่อาศัยของเรา ซึ่งเราจะต้องชำระเงิน “ค่าธรรมเนียมการสำรวจและประเมินราคาหลักประกัน” ขั้นต่ำประมาณ 3,000 – 4,000 บาท ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของธนาคาร จากนั้นเจ้าหน้าที่จะส่งราคาประเมินไปยังธนาคาร เพื่อให้ธนาคารพิจารณาวงเงินที่เราจะได้รับต่อไป
3. รอผลการอนุมัติสินเชื่อ ทำสัญญาและจดจำนอง
หลังจากเจ้าหน้าที่ประเมินราคาหลักทรัพย์แล้ว จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมา เพื่อแจ้งว่าการขอสินเชื่อของเราได้รับอนุมัติหรือไม่ และได้รับวงเงินเป็นจำนวนเท่าไร ซึ่งขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธนาคารแต่ละแห่งอาจใช้ระยะเวลาไม่เท่ากัน เมื่อเราได้รับอนุมัติแล้วก็จะต้องไปเซ็นสัญญาเงินกู้ พร้อมทำเรื่องจดจำนองที่อยู่อาศัยนั้น ณ สำนักงานที่ดินซึ่งที่อยู่อาศัยนั้นตั้งอยู่

สินเชื่อบ้านแลกเงิน มีดอกเบี้ยถูกกว่า สินเชื่อส่วนบุคคล จริงหรือ?
มาถึงคำถามที่หลายๆ คนรอคอยกันกับเรื่องสินเชื่อบ้านแลกเงิน มีดอกเบี้ยถูกกว่า สินเชื่อส่วนบุคคลจริงไหม?
สำหรับคำตอบของเรื่องนี้ ขอตอบว่าเป็นเรื่องจริง เพราะหลักการคิดดอกเบี้ยของธนาคาร ส่วนใหญ่จะประเมินจากความเสี่ยงในการปล่อยกู้เป็นหลัก
ดังนั้น สินเชื่อบ้านแลกเงินที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันอย่างบ้านที่นับวันยิ่งมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ย่อมสร้างความมั่นใจแก่สถาบันการเงินอย่างธนาคารมากกว่า ทำให้ธนาคารสามารถปล่อยกู้ได้ในวงเงินที่สูง และอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าสินเชื่อที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันอย่างสินเชื่อส่วนบุคคล