
กำลังเป็น Talk of the town อยู่ในขณะนี้ สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมมิกซ์ยูส “มหานคร” สูง 314 เมตร ซึ่งเป็นโครงการตึกระฟ้าแห่งใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยมีรูปแบบโครงการเป็นมิกซ์ยูส ในย่านถนนสีลม และสาทร ติดกับสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี ซึ่งเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญที่เพิ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จ
เปิดตัวอย่างเป็นทางการในค่ำของวันที่ 29 สิงหาคมนี้
“มหานคร” เป็นอาคารสูงที่สุดในประเทศไทยในเวลานี้ โดยโครงการดังกล่าวได้ถูกออกแบบให้เสมือนโอบล้อมด้วยริบบิ้นสามมิติหรือ “พิกเซล”


ตลอดความสูงของตัวอาคารเป็นพื้นที่ซึ่งล้อมรอบไปด้วยกระจกราวกับลอยอยู่บนฟ้า เพื่อให้มองเห้นทิวทัศน์รอบด้านแบบพาโนรามาให้ผู้พักอาศัยในอาคาร และผู้ที่เข้ามาใช้บริการอาคาร โดยได้รับการออกแบบจาก Ole Scheeren สถาปนิกชาวเยอรมัน อดีตสถาปนิกจาก สำนักงานสถาปัตยกรรมมหานคร (OMA) ของแร็ม โกลฮาส

ณ วันนี้ “มหานคร” ถือว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในกรุงเทพมหานคร ด้วยความสูง 314.2 เมตร สูง 77 โดยโครงการนี้จะประกอบไปด้วยส่วนของโรงแรม ร้านค้ารีเทล และส่วนห้องชุดพักอาศัยโดยกลุ่มริทซ์-คาร์ลตัน จำนวน 194 หน่วย โดยราคาของห้องชุดดังกล่าว ราคาเฉลี่ย 3.5 แสนบาท/ตร.ม. เริ่มต้นที่ 32 ล้านบาทไปจนถึง 300 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในห้องชุดพักอาศัยที่มีราคาแพงที่สุดในกรุงเทพมหานคร ชั้น 74-77 จะเปิดให้คนภายนอกเข้าชม เป็น Sky Observation Deck

ตึกมหานคร นับได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ กทม. ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาชมวิวของ กทม. เนื่องจากมีรูปทรงตัวอาคารเป็นแท่งตรง มีลวดลายเป็นริบบิ้นสามมิติโอบล้อมตัวอาคาร ในแนวริบบิ้นมี Sky Box ที่มองเห็นวิวได้ 270 องศา ลิฟต์ขึ้นสู่จุดชมวิวใช้เวลาเพียง 40 วินาที


ตึกมหานคร มีความสูง 314.2 เมตร สูง 77 ตัวอาคารมี 5 ส่วน คือ
1. ที่พักอาศัย หรือคอนโดมเนียม ซึ่งบริหารงานโดย เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอกจำนวน 200 ยูนิต อยู่ในชั้น 23-54 และชั้น 57-73 ราคา 62.5-235.5 ล้านบาท
2. โรงแรม เดอะ บางกอก เอดิชั่น โรงแรมบูทิคระดับลักชัวรี่ ที่บริหารจัดการโดยบริษัท เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน โฮเทล 159 ยูนิต
3. จุดชมวิว 360 องศา ที่ชั้น 77 ที่จะเปิดให้เป็นจุดชมวิว และเป็นแลนด์มาร์กของการท่องเที่ยว โดยมีพื้นเป็นกระจกใสยื่นออกจากตัวตัวอาคาร เหมือนลอยอยู่บนฟ้า มองเห็นพื้นด้านล่าง ผ่านกระจกใสที่เป็นพื้น โดยมีค่าขึ้นชมวิวประมาณ 900 บาท/คน โดยไม่จำกัดเวลา
4. โซนไลฟ์สไตล์ รีเทล ระดับลักชัวรี่ ซึ่ง ประกอบด้วยร้านอาหาร ดีน แอนด์ เดลูก้า, ลัตเตอลิเย่ เดอ โจเอล โรบูชง และโว้ค คลับ รวมทั้งอ็อบเซอเวชัน ร้านอาหารชั้นนำโดยเชฟมิชลินสตาร์
5. ลานอเนกประสงค์ ด้านหน้าโครงการสำหรับจัดกิจกรรม เช่น งานโชว์ศิลปะ คอนเสิร์ต โดยที่พัก โรงแรม และจุดชมวิว จะเปิดให้คนทั่วไปใช้บริการในปี 2560